อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก! ปี 67 เม็ดเงินโตต่ำกว่าปี 66

อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก!  ปี 67 เม็ดเงินโตต่ำกว่าปี 66

ยังคงเหนื่อยกันอีกปีสำหรับสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เมื่อแนวโน้มปี 2567 การใช้จ่ายเม็ดเงินจะโตต่ำกว่าปี 2566 ปัจจัยบวก-ลบที่จะเผชิญมีอะไร ติดตาม

ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ หรือ MI GROUP ฉายภาพใหญ่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2567 มีการประเมินตัวเลขจะเติบโตเพียง 2.3% เท่านั้น โดยปัจจัยลบรายล้อมประกอบไปด้วยภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพประชาชนอยู่ในระดับสูง ราคาพลังงาน น้ำมันเชื้อเพลิงยังแพง ปัญหาความขัดแย้งแบ่งขั้วของภูมิรัฐศาสตร์โลก ส่งผลกระทบต่อการส่งออก การค้าขาย

ด้านความหวังเศรษฐกิจและอำนาจซื้อของชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างมังกร กลับอยู่ในภาวะชะลอตัว ภาคผลิตต่างๆแน่นิ่งหรือทรงตัว เป็นต้น

“ปีหน้าปัญหาทุกอย่างมาพร้อมกัน”

นอกจากนี้ เมื่อเกิดการแบ่งแยกย่อยไปทุกอณูพื้นที่ของทั่วทุกมุมโลก มาดูด้านประชากร 8,000 กว่าล้านคน ก็มีการแตกกระจายมีความเป็นปัจเจกบุคคลมากยิ่งขึ้น ไม่แค่เรื่องประชากรศาสตร์ แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนของเทคโนโลยี เหล่านี้มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและการสื่อสาร ทำการตลาดด้วยกันทั้งสิ้น

อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก!  ปี 67 เม็ดเงินโตต่ำกว่าปี 66 ปัจจัยลบล้อมโลกไว้หมดแล้ว

กลับมามองประเทศไทย การเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพี ถูกประเมิน 3.2-4.2% โดยมีเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพพุ่ง การส่งออกชะลอตัว ภัยแล้งกระทบภาคการเกษตร เหล่านี้เป็นปัจจัยลบเหนี่ยวรั้ง ขณะที่แรงส่งมาจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว เอกชนขับเคลื่อนการลงทุน ภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นต้น

ทว่า แรงหนุนไม่เพียงพอที่จะทำให้แบรนด์เดินหน้าจับจ่ายใช้สอยเม็ดเงินโฆษณา ปี 2567 เอ็มไอ จึงประเมินเม็ดเงินจะพัดในอุตสาหกรรมสื่อโฆณามูลค่า 87,960 ล้านบาท เติบโต 4% เท่านั้น ซึ่งถือว่า “ต่ำกว่า” ปี 2566 ที่คาดว่าสิ้นปีเม็ดเงินจะสะพัดมูลค่า 84,549 ล้านบาท เติบโต 4.4%

อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก!  ปี 67 เม็ดเงินโตต่ำกว่าปี 66 สื่อแต่ละประเททครองเม็ดเงินโต-หดตัว

ผ่าน 11 เดือน สื่อแต่ละประเภทโกยเม็ดเงิน ดังนี้

-ทีวี 32,410 ล้านบาท ลดลง 4%

-อินเตอร์เน็ต 26,368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%

-สื่อโฆษณานอกบ้าน 11,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%

-วิทยุ 2,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%

-สื่อในโรงภาพยนตร์ 2,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%

-หนังสือพิมพ์ 1,446 ล้านบาท ลดลง 18%

-นิตยสาร 502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%

สำหรับแบรนด์สินค้าสายเปย์ ประจำปี 2566 นำโด่งได้แก่ ยาสีฟันเทพไทย มูลค่า 2,627 ล้านบาท ลดลง 12% ตามด้วยช้อปปี้(Shopee) 1,792 ล้านบาท ลดลง 26% เป๊ปซี่ 1,653 ล้านบาท ลดลง 27% นมผงเอนฟาโกร 1,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ นีเวีย 1,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ร้านอาหารบริการด่วน(QSR)เคเอฟซี 1,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% วิตามิน นิวโรเบียน 1,089 ล้านบาท ลดลง 16% รถปิ๊กอัพอีซูซุ 1,039 ล้านบาท ลดลง 43% แชมพูโดฟ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% และ แชมพูเคลียร์ 991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%

อุตสาหกรรมสื่อโฆษณา เหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก!  ปี 67 เม็ดเงินโตต่ำกว่าปี 66 ภวัต เรืองเดชวรชัย

อย่างไรก็ตาม ที่ต้องจับตาต่อเนื่องคือสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณา ที่ยังคงเปลี่ยนแปลง โดยปี 2566 ทีวี ครองเม็ดเงินสัดส่วน 42.8% ปี 2567 คาดลดไปอยู่ที่ 40.3% ส่วนสื่ออินเตอร์เน็ตปีนี้อยู่ที่ 34.3% ปีหน้าคาดเพิ่มแตะ 36.4%

“นิยามอุตสาหกรรมสื่อปี 2566 อยู่ในภาวะเหนื่อย หนืด หน่วง ส่วนปี 2567 จะเป็นปีตื่นตัว ตระหนักรู้ ลงมือทำอย่างปราดเปรียวถึงจะมีโอกาสรอดและรุ่ง หรือเรียกว่า Alert, Aware, Action…with Agility นั่นเอง”