เทสลา-Tomorrowland วัดบารมีประเทศไทย

นับเป็นข่าวให้ดีใจกันเล็กๆ เมื่อนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เผยว่า สัปดาห์ก่อนได้พาผู้บริหารบริษัทผลิตรถไฟฟ้าเทสลาเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งเพื่อดูโอกาสการลงทุน เนื่องจากเทสลากำลังมองหาที่ดิน 2,000 ไร่ ซึ่งนายกฯ มั่นใจว่า ผู้ผลิตรถอีวีรายนี้จะเข้ามาลงทุนในเมืองไทย หลังจากเมื่อเดือน ก.ย. นายกฯ เศรษฐา ได้พบกับอีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทสลามาแล้ว 

จะว่าไปความมั่นใจของนายกฯ ก็ใช่จะไร้เหตุผล เพราะประเทศไทยเราก็ไม่ใช่ไก่กา ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่สุดของภูมิภาค แบรนด์รถญี่ปุ่นหลายราย อาทิ โตโยต้า, อีซูซุ และฮอนด้า เป็นเจ้าในภาคยานยนต์ของไทยมาหลายสิบปี แต่ถึงยุคโลกร้อน สภาพอากาศเปลี่ยน จะใช้สินค้าและบริการใดต้องคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะเลือกใช้รถก็ต้องหันไปใช้อีวี ประเทศไทยจึงตั้งเป้าภายในปี 2573 ผลผลิตรถแต่ละปี 2.5 ล้านคัน หนึ่งในสามต้องเป็นรถอีวี และตอนนี้กำลังเตรียมการส่งเสริมให้มีการลงทุนและเปลี่ยนมาผลิตรถอีวีมากขึ้น

ช่วงที่ผ่านมามีข่าวหนาหูเรื่องที่เทสลาจะมาตั้งโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แว่วชื่ออินโดนีเซีย มาเลเซีย มาเป็นระยะๆ ซีอีโอมัสก์หวังเข้าตลาดอินโดนีเซียมาหลายปีแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของอินโดนีเซียเคยบุกไปถึงโรงงานผลิตของเทสลาที่รัฐเท็กซัสในเดือน เม.ย. 2565 เพื่อเสนอโอกาสการลงทุนในอินโดนีเซีย ส่วนมัสก์ก็เคยเผยนอกรอบการประชุมผู้นำจี 20 ที่บาหลีในปีเดียวกันอยากลงทุนในอินโดนีเซียมาก แต่กลายเป็นว่าไม่มีความคืบหน้า เทสลาก็เลยไปเปิดสำนักงานขายที่มาเลเซียและเปิดโชว์รูมในไทย เส้นทางการลงทุนของเทสลาถือว่ายังต้องจับตา ถ้าลงหลักปักฐานกับไทยได้นับว่าดีมาก 

นอกจากดึงการผลิตจากต่างประเทศมาลงทุนในไทยแล้ว งานด้านศิลปวัฒนธรรมก็ต้องมา นายกฯ เศรษฐากำลังจะไปเจรจาดึงเทศกาลดนตรี Tomorrowland มาจัดที่ประเทศไทยนานถึง 10 ปี Tomorrowland เป็นเทศกาลดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกแดนซ์ (EDM) ระดับโลกที่มีผู้เข้าชมงานจาก 200 กว่าประเทศทั่วโลก รวมแล้ว 4 แสนคนในแต่ละปี มีต้นกำเนิดอยู่ในเมือง Boom ประเทศเบลเยี่ยม จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2548 เสน่ห์หนึ่งของงานอยู่ที่ผู้ร่วมงานจะนำธงชาติของประเทศตัวเองมาโบกสะบัดกัน ทำให้กลายเป็นเทศกาลที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง

ลองจินตนาการถ้าเทสลาและเทศกาลดนตรี Tomorrowland เข้ามาไทยจริง ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขนาดไหนไม่ต้องพูดถึง ทั้งยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในทางอ้อม แต่งานนี้ใช่ว่าจะดีลกันง่ายๆ ต่างฝ่ายต้องมีเงื่อนไข เจรจาต่อรอง และผลประโยชน์ต่างตอบแทน โดยเฉพาะกรณีของเทสลา จะให้อะไรมากน้อยแค่ไหนต้องชั่งตวงวัดให้ดี ระหว่างนี้ประชาชนคนไทยขอฝากความหวังไว้ที่นายกรัฐมนตรี ภูมิหลังการเป็นนักธุรกิจใหญ่น่าจะเข้าใจได้ดีว่าคนทำธุรกิจเขาอยากได้อะไร