เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง

‘ซิลเวอร์แอคทีฟ’ ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดอินไซด์ กลุ่มวัย 50 ปีขึ้นไป เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง กระเป๋าหนัก มั่นคงในแบรนด์สินค้า โอกาสชิงขยายตลาด โลกกำลังเปลี่ยนสู่ Silver Disruption

บริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาดแบบครบวงจร ร่วมกับ คณาจารย์ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมทำงานวิจัยเชิงลึกเจาะความต้องการของกลุ่มลูกค้าซิลเวอร์เจน (Silver Age) ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป กับพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มสินค้าและบริการ รวมถึงโอกาสของตลาด

ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลาดในกลุ่ม Silver age เป็นโอกาสมหาศาล โดยเมื่อประเมินปัจจุบัน ในประชากร 5 คนจะมีคนสูงวัยหนึ่งคน แต่ในอีก 6 ปีข้างหน้าในประชากร 4 คน จะพบผู้สูงวัยหนึ่งคน รวมถึงเป็นตลาดที่มีการแข่งขันน้อยหรือ Blue Ocean ที่แบรนด์สามารถเข้าไปทำตลาดได้จำนวนมากในระยะยาว

 

ทั้งนี้เรียกได้ว่า ยุคนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่เรียกได้ว่า "Silver Disruption" ครั้งใหญ่ของธุรกิจ จากการที่ผ่านมาเกิด ดิจิทัล Disruption เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจ โดยยุค "Silver Disruption" สู่สังคมสูงวัย ส่งผลให้วิธีการทำตลาดต้องเปลี่ยนไป หันมามุ่งแบบ targeted รวมถึงนักการตลาดต้องมองตลาดนี้ใหม่ เป็นตลาดวัยเก๋าที่มีความพร้อมทั้งในเรื่อง เวลา กำลังซื้อสูง และ Royalty สูง รวมถึงอายุยืน ดังนั้น หากผลิตภัณฑ์สามารถชิงตลาดก่อนจะได้ยิ่งได้เปรียบ

"วรรณา สวัสดิกูล" ประธานบริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ จำกัด เปิดเผยว่า ในตลาดประเทศไทยกลุ่มผู้บริโภคสูงวัย ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยว่าในปี พ.ศ.2566 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่า 13 ล้านคน หรือเท่ากับ 20% เมื่อเทียบกับจำนวนคนทั้งประเทศ และได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบสมบูรณ์ (aged society) เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันไทยติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศที่สูงวัยเติบโตเร็วที่สุดในโลก

 

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง ล่าสุดข้อมูลจาก Nielsen IQ (Thailand) พบว่า มูลค่าตลาดค้าปลีก กว่า 9 แสนล้านบาท ที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตมีสินค้าที่ขายที่เจาะจงกลุ่มสูงวัยแค่ไม่ถึง 1% โดยเป็นตลาดที่มีโอกาสอย่างมากในการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อสร้างการเติบโตครั้งสำคัญให้แก่ภาคธุรกิจ 

ทั้งนี้จึงควรให้น้ำหนักกับกลุ่ม ในช่วงอายุ 50-70 ปี ที่ช่วงเตรียมตัวเข้าสู่วัยเกษียณไปจนถึงผู้สูงอายุในช่วงเริ่มต้น ที่ต้องเข้าใจอินไซด์ และออกแบบกลยุทธ์การทำตลาดให้สอดคล้อง เพื่อร่วมสร้างแบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืน 

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง เปิดผลการทำวิจัยในกลุ่มลูกค้าซิลเวอร์เจน (Silver Age)

สำหรับกลุ่มซิลเวอร์เจน จะมีอายุ 50 ปีขึ้นไป พบว่า จำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทย 12.69 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 19.21% ของประชากรทั้งประเทศ และมีการประเมินว่า ภายในปี 2030 จะมีสัดส่วน 26% ของประชากรทั้งประเทศ 

ทั้งนี้ได้มีการแบ่งกลุ่มตามช่วงอายุ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่

  • วัย Prepare อายุ 50-59 ปี
  • วัย Repair yold อายุ 60-69 ปี
  • วัย Repair lold จะมีอายุ 70 ปีขึ้นไป

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง ทั้งนี้ในแต่ละช่วงอายุจะมีความต้องการต่างกัน พฤติกรรมและทัศนคติที่ต่างกัน และเมื่อแบ่งตามกายภาพ จะเป็น กลุ่มติดสังคม ที่มีความแอคทีฟอยู่ และชอบออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน กลุ่มติดบ้าน ไม่ค่อยสะดวกไปไหน ชื่นชอบใช้ชีวิตอยู่บ้าน และกลุ่มติดเตียง จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ และต้องนอนติดเตียง เคลื่อนไหวลำบาก

การแบ่งตามไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต จะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. วัยแซ่บ ต้องการดูดี มีสไตล์ 2. วัยฟรีด้อม ต้องการมีเวลาของตัวเอง และอยากเที่ยว 3. วัยอะไหล่หายาก สุขภาพมาลำดับแรก และไม่ต้องรอให้หมอบอก 4. วัยมั่งคั่ง หาเงินเก่ง มีเงินเก็บ และ 5. วัยเข้าใจยาก แอคทีฟออนไลน์ สนใจแต่ Silent ไม่โพสต์

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง สิ่งที่สำคัญสุด และเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต พบว่า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญสุด และเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตมากที่สุด รองลงมา ทัศนคติ มุมมองการใช้ชีวิต การเงินสำคัญรองลงมา โดยคนที่มีความสุขมากที่สุดคือ คนที่มีสุขภาพแข็งแรง และส่วนใหญ่ตรวจสุขภาพปีละครั้ง

ทั้งนี้เมื่อสุขภาพเปลี่ยนแปลงไป ต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งในด้าน อาหารและการกินมากที่สุด 71% การออกกำลังกาย 55% การไปพบแพทย์ 48% และ การเสริมอาหารต่างๆ 44%

กลุ่มเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพมาแรง โดยอาหารกลุ่มนี้ต้องดีต่อสุขภาพและมีรสชาติที่อร่อยด้วย รวมถึงต้องออกแบบให้รับประทานได้ง่ายและเคี้ยวง่าย รวมถึงให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอก มีวินัยในการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 5-6 ครั้ง

แนวทางในการสร้างโอกาสในกลุ่มเรื่องสุขภาพ ได้แก่ การแนะนำให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพผ่านสื่อและแคมเปญต่างๆ การออกแบบโซลูชั่น ในรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับช่วงวัย และ การกระตุ้นให้ดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง อินไซด์ในการใช้ชีวิตและการใช้จ่าย

ทัศนคติและพฤติกรรมเรื่องการเงิน พบว่า 86% ยังมีรายได้จากการทำงาน และ 55% ไม่มีหนี้สินและเงินออม เลือกลงทุนแบบมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งแบ่งเป็น 39% ทำงานประจำ 28% ทำธุรกิจส่วนตัว 19% เกษียณและทำงานเล็กๆ น้อยๆ และ 14% ปัจจันเกษียณและไม่ได้ทำอะไร

ทัศนคติและพติกรรมเรื่องที่อยู่อยู่อาศัย ในเรื่องการย้ายไปอยู่ในที่พักมีคนดูแลเป็นพิเศษ 55% ไม่สนใจเพราะมีบ้านอยู่แล้ว 33% ชอบที่มีคนดูแลและไม่เป็นภาระของใคร และ 12% น่าสนใจ เพราะเป็นคนโสดมีอายุมากขึ้น

พฤติกรรมการใช้จ่าย Shopping behavior 55% ตัดสินใจซื้อด้วยตนเอง ซื้อเมื่อต้องการใช้ 86% ส่วนใหญ่ซื้อไม่เกิน 1,000 บาท และซื้อเพื่อตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก

เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมให้รางวัลกับตัวเอง เนื่องจากมีเงินเก็บ จึงต้องการใช้จ่ายเพื่อความสุขตามที่ต้องการ พร้อมให้คุณค่ากับคุณภาพและแบรนด์มากกว่า ราคา เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อน้อยลง

สถานที่ซื้อสินค้าและบริการ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้ามากที่สุด 85% ออนไลน์ ช้อปปิ้ง 61% ตลาด 57% ร้านขายยา 22% และโทรศัพท์จากรายการทีวีที่โปรโมต 5%

เข้าสู่ยุค Silver Disruption ชี้เป็นกลุ่มมั่งคั่ง-ขุมทรัพย์แบรนด์ ต้องชิง เจาะพฤติกรรมในการซื้อ

  • กลุ่มสินค้าที่ซื้อเพิ่มขึ้นได้แก่ นม อาหารสัตว์ ข้าว รังนก ซุปไก่สกัด และเครื่องดื่มออกกำลังกาย
  • กลุ่มที่สนใจอยากซื้อ ได้แก่ ประกันสุขภาพ สินค้าไซส์เล็ก สำหรับทานคนเดียว เมนูตามร้านอาหารที่อ่านง่าย ร้านอาหารที่อำนวยความสะดวก
  • กลุ่มสินค้าที่ซื้อลดลง ได้แก่ ครีมเทียม ไข่ไก่ ผงชูรส ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย น้ำมันปรุงอาหาร และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
  • กลุ่มสินค้าที่อยากได้ แต่ยังไม่ค่อยมีในตลาด ได้แก่ มีแพคเกจจิ้งที่เปิดง่ายสำหรับผู้สูงวัย

ส่วนสื่อที่สนใจเข้าใช้มากที่สุด จะเป็นออนไลน์มากสุด นำโดย Facebook รองลงมา TV และ YouTube ตามด้วย LINE และ Google

ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการซื้อ ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ ต้องมีคุณภาพและความปลอดภัย ช่องทางจำหน่าย จะเลือกที่คุ้นเคยและสะดวกในการใช้บริการ การมีราคาสมเหตุสมผล การทำตลาด ที่เน้นบริการหลังการขายที่ดี