เอาท์เล็ทมอลล์ปั้นเรือธงสเปเชียลตี้สโตร์ดึงพันธมิตร‘วอริกซ์’เสริมแกร่ง

เอาท์เล็ทมอลล์ปั้นเรือธงสเปเชียลตี้สโตร์ดึงพันธมิตร‘วอริกซ์’เสริมแกร่ง

เอาท์เล็ท มอลล์ เดินหน้ายุทธศาสตร์ปั้นสเปเชียลตี้สโตร์หนุนโต ดึงพันธมิตร "วอริกซ์" แม่เหล็กร่วมขยายตลาดเจาะหัวเมืองหลัก ดึงลูกค้าเข้าถึงสินค้าทีมชาติไทย เสื้อกีฬาไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน รับเมกะเทรนด์สุขภาพ ดันสินค้ากีฬา บริการสุขภาพ แรงต่อเนื่อง

การขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ ตำราเดิม ต้นแบบแห่งความสำเร็จ เอาไม่อยู่! ในสมรภูมิแห่งความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งปัจจัยภายใน-ภายนอก พฤติกรรมผู้บริโภคฉีกทุกกฎที่เคยมีมา ผู้ประกอบการไม่เพียงแต่มองหาความต่างจากคู่แข่ง แต่จะสร้าง New S-Curve หนุนธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างไร 

ภายใต้ธุรกิจ 'เอาท์เล็ต' ที่เน้นจำหน่ายสินค้าตกรุ่น หลุดคอลเลคชัน ระบายสต็อก ที่แน่นอนว่าสินค้าต้องมี 'ราคา' ต่ำกว่าสินค้าปกติ ต้องทำราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้!  เพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยนิยามของความเป็นเอาท์เล็ต ความคาดหวังของลูกค้า คือ ของดี ราคาถูก! 

“เราอยากจะฉีกแนวที่ไม่ใช่แค่ทำสินค้าลดราคา!”

รจนี บุญญารัชต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอาท์เล็ท มอลล์ จำกัด ผู้บริหารโครงการ 'พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท' ย้ำการพลิกกลยุทธ์ของพรีเมี่ยมเอาท์เล็ท และแนวทางขับเคลื่อนแห่งอนาคตมุ่งต่อยอดความแข็งแกร่งฐานธุรกิจเดิมที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวหลัก รวม 8 แห่ง ได้แก่ เอาท์เล็ท มอลล์ พัทยา, พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท ชะอำ, พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เขาใหญ่, พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท อยุธยา, เอาท์เล็ท วิลเลจ กระบี่, พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท ภูเก็ต, พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เชียงใหม่ และ พรีเมี่ยมเอาท์เล็ท อุดรธานี

โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าผ่านหลากหลายมิติทั้งการวางคอนเซปต์ร้านโมเดลใหม่ การผนึกพันธมิตรหลากหลายวงการ การสร้างกิมมิคใหม่ๆ ที่สำคัญ การรุกเข้าหาลูกค้า แทนที่จะรอให้ลูกค้ามาหา!

ประเดิมบิ๊กโปรเจกต์ด้วยการจับมือ 'วอริกซ์ สปอร์ต' เจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย ขยายฐานลูกค้าร่วมกัน! โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าผ่านโมเดลธุรกิจ 'Specialty Store' ที่วอริกซ์จะวางจำหน่ายทั้งสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และสินค้า Off Season ในอนาคตยังวางแผนร่วมกับวอริกซ์ในการผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภท TFC (Tier Factory Outlet) 

เอาท์เล็ทมอลล์ปั้นเรือธงสเปเชียลตี้สโตร์ดึงพันธมิตร‘วอริกซ์’เสริมแกร่ง

เอาท์เล็ทมอลล์ ยังมีแผนขยายสาขาร้านวอริกซ์ไปยังหัวเมืองต่างๆ ที่เป็นฮับทั่วทุกภาคของประเทศไทยภายใน 2 ปีข้างหน้า ปัจจุบันเปิดบริการในเอาท์เล็ทมอลล์ 3 สาขา ได้แก่ พัทยา เปิดบริการ มี.ค. 2566 กลุ่มเป้าหมาย 80% เป็นลูกค้าต่างชาติ และลูกค้าท้องถิ่นในพัทยา ชลบุรี ระยอง 

อยุธยา เปิดบริการ เม.ย.2566 กลุ่มเป้าหมายหลัก คือลูกค้าท้องถิ่น ทั้งในอยุธยา ปทุมธานี สระบุรี รวมทั้งนักกีฬาในโรงเรียน ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ประกอบกับในพื้นที่ของสาขาอยุธยา มีสนามไดร์ฟกอล์ฟ และสนามฟุตซอล จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการมีจำนวนค่อนข้างมาก

และสาขา เขาใหญ่ เปิดบริการ มิ.ย.2566  มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด 263 ตร.ม. ติดด้านหน้าถนนมิตรภาพ เป็นฮับของภาคอีสาน กลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าท้องถิ่น นักท่องเที่ยว และกลุ่มข้าราชการ

“วิกฤติโควิดที่ผ่านมา เอาท์เล็ท มอลล์ เสริมตลาดเจาะคนท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อรอการกลับมาของนักท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมงานแฟร์ลดราคา เพื่อซ่อมเป้าหมายให้คู่ค้า และเพื่อคนท้องถิ่นได้เข้าถึงสินค้าแบรนด์เนม ภายใต้ชื่อ งานนี้มีโละ พร้อมปรับกลยุทธ์การขาย จากการขายในห้องแอร์เป็นออกมาขายในพื้นที่อีเวนต์ธีมงาน  งานนี้มีโละ จัดครั้งแรกที่พรีเมี่ยมเอาท์เล็ท อยุธยา บริเวณลานจอดรถ คนร่วมงานกว่า 25,000 คน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"

รวมถึงงาน 'โละสัญจร' เป็นรูปแบบการจัดพื้นที่ขายอีเวนต์ในจังหวัดเมืองรอง (Second Tier) นอกเหนือจากในพื้นที่ที่มีสาขาของเอาท์เล็ทตั้งอยู่

เหล่านี้จะถูกนำมาเป็นกลยุทธ์รุกตลาดต่อเนื่อง แต่ปรับให้สอดรับกับสถานการณ์และโลเคชั่น! ที่จะเข้าไปหาลูกค้า มีทั้งย่านสำนักงานต่างๆ 

นอกจากนี้ เน้นการทำตลาดแบบ O2O (Online to Offline) ผสมผสานข้อดีของการขายของบนโลกออนไลน์ ผ่านแฟนเพจเอาท์เล็ททุกสาขา ปัจจุบันมีฐานแฟนเพจกว่า 7 แสนคน และปิดการขายที่เอาท์เล็ท นับเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถึงและรอบด้าน 

“การตลาดแบบ O2O ยังช่วยสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ สร้างดีมานด์ ผ่านการ post และ live stream สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพราะมีทั้งหน้าร้านที่ลูกค้าสามารถเข้าไปลองสินค้า ทำให้เอาท์เล็ทได้ traffic หรือลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าจากโลกออนไลน์แล้วมารับสินค้ากับสาขาใกล้บ้าน เรียกว่าเปิดโอกาสให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทุกเวลา ทุกช่องทาง” 

ที่ผ่านมา พรีเมี่ยมเอาท์เล็ท มุ่งสร้างสร้างความหลากหลายด้วยร้านค้าขนาดใหญ่ 500 ตร.ม.ขึ้นไป ประเภท แคธิกอรี่คิลเลอร์ (Category Killer) สำหรับคู่ค้าที่ไม่พร้อมลงทุนทำร้านของตัวเอง มีการพัฒนาร้าน Golf Challenge ร้านรวมอุปกรณ์กีฬากอล์ฟ Sport Stadium ร้านรวมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา Kids Zone ร้านรวมเสื้อผ้าของใช้ ของเล่นเด็ก Brabara ร้านรวมแบรนด์ชุดชั้นใน ชุดนอน สำหรับสุภาพสตรี Men's Wear ร้านรวมแบรนด์เสื้อผ้า Accessories สำหรับสุภาพบุรุษ Luggage Store ร้านรวมกระเป๋าและอุปกรณ์การเดินทาง Jeans Station ร้านรวมเสื้อผ้ายีนส์ Cucina ร้านรวมอุปกรณ์เครื่องครัวและของแต่งบ้าน Factory Brand Shoes ร้านรวมรองเท้า กระเป๋า เครื่องหนัง 

ความเข้มแข็งของแต่ละแบรนด์ร้านค้าแคธิกอรี่คิลเลอร์ และสเปเชียลตี้สโตร์ จากนี้จะถูกต่อยอดออกไปไม่รู้จบ

ทางด้าน วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ชุดแข่งทีมชาติไทยสำหรับฤดูกาล 2023/24 ได้ออกแบบชุดแข่งขันใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ 'CHANGE THE BEGINNING IS NOW เปลี่ยน เพื่อสังคมที่ดีขึ้น' เริ่มต้นการเปลี่ยนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ แค่เราร่วมมือกัน หลายๆ สิ่งย่อมไม่เหมือนเดิม วอริกซ์ อยากชวนคนไยทุกคนลุกขึ้นมา 'เปลี่ยน' เพื่อสร้างความสวยงามให้สังคมไปพร้อมกัน

โดย วอริกซ์ ในฐานะแบรนด์เสื้อผ้าได้เริ่มต้นเปลี่ยนจากคอลเลคชั่นใหม่ของชุดแข่งทีมชาติไทย ฤดูกาล 2023/24 เป็นโพลีเอสเตอร์ที่รีไซเคิล ใช้กับชุดแข่งขันฟุตบอลก่อนจะเปลี่ยนวัสดุที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมในจุดอื่นต่อไป โดยเสื้อใหม่ของทัพช้างศึกภายใต้แบรนด์วอริกซ์ ในปีนี้มีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง และสีส้ม

สี Prime Blue และ Hyper Red ลาย “Bloxels” หมายถึงการรวมกันระหว่าง Block และ Pixel เป็นลวดลายที่สื่อถึงการเชื่อมโยง การเปลี่ยนถ่ายจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่อยู่บนตัวเสื้อ ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีจัดจำหน่ายที่พรีเมี่ยมเอาท์เล็ททั้ง 3 สาขา ภายใต้บริษัท เอาท์เล็ต มอลล์ จำกัด รวมถึงหลังจากนี้ วอริกซ์ จะมีแคมเปญ “Change” อื่นๆ ตามมาอีกหลายแคมเปญด้วยกันเพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้น

โดย ฮับในเอาท์เล็ททั้ง 3 สาขา จะจัดจำหน่ายสินค้าทีมชาติไทย ทุกฤดูกาล และ โปโล ไลฟ์สไตล์ คอลเล็คชัน ภายใต้การพัฒนาของ “วอริกซ์" หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเส้นใยและเนื้อผ้า เทียบกับแบรนด์สปอร์ตระดับโลก และมีขนาดเสื้อผ้าเหมาสมกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกขนาด ไปจนถึงขนาด 7XL

ปัจจุบัน วอริกซ์ มีการเพิ่มสินค้ากลุ่มเด็ก (Warrix Kids) ในอนาคตมีแผนจำหน่ายกลุ่มสินค้า ไทยลีก (Thai Leage) พร้อมขยายฐาน “เอาท์เล็ท” ให้เป็นศูนย์กลางรับผลิตเสื้อองค์กร เสื้อทีม โดยมีบริการ Screen Digital Print เป็น One Stop Service

“สินค้ากีฬาและสินค้าบริการสุขภาพ เติบโตสูงจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคที่สนใจสุขภาพมากขึ้น และประสบการณ์ช่วงโควิด ทำให้ชาวไทย 42% ออกกำลังเป็นประจำ ส่วนใหญ่เป็นการวิ่ง และเดิน ขณะที่งานวิ่ง อีเวนต์กีฬาต่างๆ เริ่มกลับมาจัดอีกครั้ง เทรนด์การใส่ชุดกีฬาและรองเท้าสนีกเกอร์ในชีวิตประจำวันยังคงมาแรง ทำให้ดีมานด์สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”  

สอดรับยุทธศาสตร์ของ วอริกซ์ มุ่งกลยุทธ์ แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ (Active Lifestyle) สร้างการเติบโตจาก 2 ส่วน คือ การขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมกีฬาอื่นๆ นอกเหนือจากฟุตบอล เพื่อขยายฐานลูกค้ารวมถึงเป็นฐานต่อยอดรุกตลาดต่างประเทศ พร้อมกับปั้นธุรกิจบริการสุขภาพเป็นอีกหนึ่งเรือธง!