ททท.ผนึกดิจิลิ้งก์เจาะทัวริสต์จีนดันต่างชาติเที่ยวไทยแตะเป้า28ล้านคน

ตลาดจีน! ขุมทรัพย์ใหญ่ของไทยด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 1,000 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวจีน รวมถึงการยอมรับและนิยมเลือกซื้อสินค้าและบริการจากประเทศไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ (Tourist & Hospitality) บริการทางการแพทย์ (Medical) บริการเพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Wellness) ธุรกิจอาหาร (Food) อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) และแฟชั่นและรีเทล (Fashion & Retail) ล้วนเป็นโอกาสธุรกิจที่สำคัญของผู้ประกอบการไทย 

ในเวทีฟอรั่ม 'Time To Take off' เผยเคล็ดลับเจาะ นักท่องเที่ยวจีน กว่า 1,000 ล้านคน ภายใต้แนวคิด 'The Rebound of Chinese Travelers and Reborn of Thai Economy' โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย พร้อมด้วย '5 แอปพลิเคชั่น' ยักษ์ใหญ่ของจีน BytePlus ไบท์พลัส (Douyin), Tencent เทนเซน (WeChat), XiaoHongShu เสียวหงชู, MaFengWo หม่าเฟงวอ และ Juwai IQI จูไว่ ไอคิวไอ ร่วมเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าไปทำธุรกิจในจีนไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้รับมอบนโยบายสำคัญจากนายกรัฐมนตรี 'เศรษฐา ทวีสิน'  ที่ให้ทุกกระทรวงดำเนินนโยบายเร่งรัด 100 วันทำได้จริง หรือ Quick Win ให้ประสบความสำเร็จโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ต้องการนำรายได้มาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาโดยเร็ว 

ดังนั้นถือเป็นพันธกิจอันสำคัญและท้าทายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งล่าสุดได้ประกาศมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในการเดินทางท่องเที่ยวไทยเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566-29 ก.พ.2567

 

โดยช่วงวันที่ 7-10 ต.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าพบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อโปรโมทและสร้างความเชื่อมั่นต่อการเดินทางท่องเที่ยวไทย 

 

“มั่นใจว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนคนคนต่อเดือน หรือ 30% หรือเพิ่มเป็น 4.1-4.4 ล้านคน จากเดิมที่ไม่มีมาตรการฟรีวีซ่าอยู่ที่ 3.6-3.7 ล้านคน”

หลังจากที่ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพันธมิตรตัวแทนจาก 5 แพลตฟอร์มดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่น และกระตุ้นปริมาณนักท่องเที่ยวคุณภาพจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าไทยเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเภทท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือ Free Independence Travelers (FIT) เพื่อสร้างนักท่องเที่ยวรายใหม่ที่ยังไม่เคยเที่ยวไทยให้ทดลองเข้ามา และเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วให้กลับมาท่องเที่ยวซ้ำอีก 

“เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ด้วยการมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 28 ล้านคน สร้างรายได้รวมประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 80% เมื่อเทียบกับปี 2562”

การที่ผู้ประกอบการไทยได้ทำความรู้จักและเข้าถึงแพลตฟอร์มชั้นนำของจีนจะทำให้ไทยได้มีโอกาสรับฟังแนวทางเพิ่มจํานวนการท่องเที่ยวและการจัดการด้านความสะดวก สบาย ตลอดจนด้านความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในใจของชาวจีน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองที่ขยายตัวสูง เป็นกลุมคุณภาพที่หากทำให้เกิดการ Visit และ Re-visit ต่อเนื่องในอนาคตจะทำให้ไทยได้ประโยชน์อย่างมาก

พรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เวทีฟอรั่ม 'Time to Take off' เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของ ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ AV Group ถือเป็นครั้งแรกในเอเชีย ที่ทั้ง 5 แอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ของจีน ไบท์พลัส, เทนเซน, เสียวหงชู, หม่าเฟงวอ, จูไว่ ไอคิวไอ มาอยู่ร่วมกันบนเวทีเดียวกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน

นอกจากใช้เป็นช่องทางการดำเนินธุรกิจยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ความต้องการของชาวจีนแบบอินไซต์ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว FIT นิยมท่องเที่ยวแบบอิสระ ไม่ใช้บริการทัวร์ ซึ่ง FIT มีจำนวนมากขึ้นทุกปี เป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

หากผู้ประกอบการไทยเข้าถึงพฤติกรรมเชิงลึกและสามารถใช้เครื่องมือทางการตลาดได้อย่างถูกต้องจะเป็นโอกาสขยายธุรกิจและเติบโตอย่างก้าวกระโดด​