ท่องเที่ยวเดินหน้าแผน‘ควิกวิน’ผนึก5แพลตฟอร์มจีนดึงทัวริสต์เข้าไทย

นอกเหนือจากการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวคาซัคสถานเป็นเวลา 5 เดือน เริ่มจาก 25 ก.ย.2566 ถึง 29 ก.พ.2567 การเข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ นับเป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งสำหรับผู้ประกอบการชาวไทย

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้มีโอกาสพบผู้บริหารระดับสูงจาก 5 แพลตฟอร์มชั้นนําของประเทศจีน ได้แก่ ไบท์พลัส (โตวยิน), เทนเซน, เสียวหงชู, หม่าเฟงวอ และ จูไว่ ไอคิวไอ  ถือเป็น 'Quick Win 100 วัน' ปฏิบัติการเชิงรุกในการนำมีเดียแพลตฟอร์มจีน เพื่อเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน 

โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง หรือ FIT (Free Independent Travelers) ซึ่งทั้ง 5 แพลตฟอร์มนี้ มีผู้ติดตาม (daily active user) มากกว่า 1,000 ล้านคนต่อวัน ถือเป็นโอกาสดีในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและสร้างการเข้าถึงกลุ่มชาวจีนทั่วประเทศ

“วันนี้ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้านทั้ง short stay and long stay การพบกันในครั้งนี้ ทำให้ไทยได้มีโอกาสรับฟังแนวทางในการเพิ่มจํานวนการท่องเที่ยวและการจัดการด้านความสะดวก ความปลอดภัย ต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งทั้ง 5 แพลตฟอร์มต่างมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างดี"

เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญทำให้ไทยบรรลุเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว และทำให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในใจของชาวจีน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT เพื่อให้เกิดการ Visit และ Re-visit ต่อเนื่องต่อไป

พรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การเข้าถึงแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน นอกจากจะใช้เป็นช่องทางการดำเนินธุรกิจ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ความต้องการของชาวจีนแบบอินไซต์ และ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว FIT ที่นิยมท่องเที่ยวแบบอิสระ ไม่ใช้บริการทัวร์ ซึ่ง FIT มีจำนวนมากขึ้นทุกปี และเป็นตัวแปรสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

สำหรับแอปพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมในจีน ประกอบด้วย Douyin แอปพลิเคชั่นที่นำเทคโนโลยี มาเสริมพลังของวิดิโอสั้น เพื่อเข้าถึงชาวจีน WeChat ซูเปอร์แอปที่ครองใจชาวจีนกว่า 1 พันล้านคน Mafengwo แอปพลิเคชั่น ที่นำเสนอพลังนักท่องเที่ยว FIT และการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ Juwai IQI แอปพลิเคชั่นที่อัปเดตเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน พร้อมตอบคำถามทำไมคนจีนจึงอยากได้อสังหาริมทรัพย์ในไทย และ Xiaohongshu แอปพลิเคชั่น ผู้ใช้พลังโซเชียล KOL KOC นำรีวิวมาต่อยอดธุรกิจ

อย่างไรก็ดีเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้ และเข้าใจถึงพฤติกรรมชาวจีนกว่า 1,400 ล้านคน ดิจิลิ้งก์ ประเทศไทย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ AV Group จัดเวทีฟอรั่มเสริมแกร่งธุรกิจไทยสู่ตลาดจีน “Time to Take off” คอนเซปต์ The Rebound of Chinese Travelers and Reborn of Thai Economy ในวันนี้ (2 พ.ย.) ณ โรงแรม โรสวูด กรุงเทพฯ 

ภายในงาน ททท.จะให้ข้อมูลเชิงลึก ทิศทาง โอกาส และอุปสรรคของตลาดจีน พร้อมด้วยนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จครองใจลูกค้าชาวจีน และ FIT ถ่ายทอดวิธีคิดและลงมือทำ! จนกวาดยอดขายในจีนได้อย่างถล่มทลายจากแวดวงต่างๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนกับ 5 ผู้บริหารระดับสูงจาก 5 แอปพลิเคชั่นจีน

Kenny Tan จาก Douyin นำเสนอเทคโนโลยีมาเสริมพลังของวิดิโอสั้น เพื่อเข้าถึงชาวจีน

Alice Yu จาก Tencent กับ ecosysterm ของ WeChat ซูเปอร์แอปที่ครองใจชาวจีนกว่า 1,000 ล้านคน

Mona Liu จาก Mafengwo กับการปลดล็อกพลังนักท่องเที่ยว FIT และการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่

Hao Zhang จาก Juwai IQI  อัปเดตเทรนด์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน พร้อมตอบคำถามทำไมคนจีนจึงอยากได้อสังหาริมทรัพย์ในไทย

Jake Lee จาก Xiaohongshu การใช้พลังโซเชียล KOL KOC นำรีวิวมาต่อยอดธุรกิจ

และ Krittakorn Uttamo จาก FAR-E ผู้บุกเบิกนำเข้าสินค้าไทยสู่ตลาดจีน เบอร์ 1 ด้านการนำเข้าและอีคอมเมิร์ซในยูนนาน ที่จะมาบอกเล่าเส้นทาง อุปสรรค เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย

พร้อม 'Exclusive Dinner' โดยองค์กรภาครัฐและเอกชนแนะแนวทางสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตในตลาดจีน ที่มีโอกาสสูงทั้งภาคธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ (Tourist & Hospitality) บริการทางการแพทย์ (Medical) บริการเพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Wellness) ธุรกิจอาหาร (Food) อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) และแฟชั่นและรีเทล (Fashion & Retail)

“วันนี้ชาวจีนให้การยอมรับและนิยมเลือกซื้อสินค้าและบริการจากประเทศไทยจำนวนมาก แต่ยังมีตัวเลือกจำกัด จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่มีความพร้อมและต้องการเข้าไปขยายตลาดให้กับชาวจีน ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีน การใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง ถูกจังหวะและถูกเวลา เพื่อก้าวสู่ตลาดจีนได้แบบก้าวกระโดด ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่ง”