พร้อมเปิด รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ต้น ธ.ค.ปั้นฮับสุขภาพใหญ่สุดย่านศรีนครินทร์

บริษัท เอ็ม บี เค ได้ประกาศแผนการลงทุนใหญ่ 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับโฉม ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค (Paradise Park) ครั้งใหญ่ ในรอบ 13 ปี หลังจากต่อสัญญาเช่าที่ดิน 20 ปีกับ บริษัท เอส.เอส.เรียล (สวนหลวง) จำกัด โดยได้ปรับโฉมพื้นที่รวมกว่า 84,000 ตร.ม. ให้อยู่ภายใต้แนวคิดใหม่ “Shopping Center with Health & Wellness” มุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตอบสนองไลฟ์สไตล์มากที่สุด

ทั้งนี้การรีโนเวทพื้นที่จึงได้ขยายไปสู่การสร้างฮับศูนย์ดูแลสุขภาพแห่งใหม่ในย่านศรีนครินทร์กับ Ramathibodi Health Space@Paradise Park หรือ รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ@พาราไดซ์ พาร์ค ดำเนินการโดย "คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล" ถือเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาล ที่จัดตั้งอยู่ใน ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค วางเป้าหมายร่วมพลิกโฉมย่านบริการสุขภาพในย่านแห่งนี้ 

สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้าง รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ@พาราไดซ์ พาร์ค อยู่ที่ประมาณ 70% แล้ว และมีกำหนดเปิดให้บริการในต้นเดือน ธ.ค.นี้ โดยในปัจจุบันศูนย์การค้าได้มีการรีโนเวทพื้นที่ใหม่ และการดึงร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาเสริมให้บริการมากขึ้น

นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดพื้นที่ Ramathibodi Health Space@Paradise Park (รามาธิบดีเฮลธ์ สเปซ@พาราไดซ์ พาร์ค) โดยเป็นการร่วมเชื่อมโยงการบริการด้านสุขภาพ Health & Wellness แบบองค์รวมที่ใหญ่ที่สุดในย่านศรีนครินทร์ จัดตั้งอยู่ในชั้น 3 ของศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค มีพื้นที่ขนาด 1,818 ตารางเมตร พร้อมจะเปิดให้บริการในเฟสแรก ช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2566

ทั้งนี้จึงเป็นการร่วมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่สนใจการดูแลสุขภาพและบริการอย่างครบวงจร ในย่านศรีนครินทร์และพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไกลเข้าไปในเมือง รวมถึงรองรับการเดินทางด้วย รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นลาดพร้าว-สำโรง กับสถานี สวนหลวง ร.9 ที่เชื่อมต่อกับ พาราไดซ์ พาร์ค 

สำหรับศรีนครินทร์ นับเป็นย่านการค้าที่มีทำเลหมู่บ้านหนาแน่น โดยพื้นที่โดยรอบระยะ 5 กิโลเมตรในศูนย์การค้า มีประชากรกว่า 5 แสนคน และประชากรในสังคมออนไลน์จำนวนกว่า ล้านคน โดยพื้นที่มีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม หมู่บ้าน โรงเรียน และมหาวิทยาลัยจำนวนมาก จึงทำให้มีความต้องการดูแลสุขภาพและบริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย