Brown out หมดใจจากองค์กร หนีไปนั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเล ช่วยได้ไหม

ทำให้แรงจูงใจในการทำงานลดลงและหมดไฟ พอกพูนมากเข้า จึง หมดไฟ ในที่สุดได้ ซึ่งอาการนี้เป็นปัญหาใหญ่ของคนวัยทำงานในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่ อาการ “BROWNOUT” เริ่มหนาหูขึ้น อาการเหนื่อยและหมดไฟ เกิดขึ้นได้กับคนที่ทำงานหนักหรือมีความเครียดสูง แต่จริงๆ แล้ว โดยภาพรวมแล้วยังก่อให้เกิดความเสียหายแรงกว่ามาก! เพราะกระทบทั้งเชิงบุคคลและองค์กร

ภาวะหมดไฟ (brownout) เป็นปัญหาที่พบได้มากโดยเฉพาะในบุคลากรที่มีอาชีพในการบริการ โดยพบได้ประมาณ 15-50% ของคนทํางาน อาชีพที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น อาชีพการให้การบริการเป็นกลุ่มเสียงที่ประสบปัญหาภาวะหมดไฟได้มากที่สุด

จุดเริ่มต้น Brownout มักมาจากการทำงานที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ และยังไม่สามารถยอมรับผลงานที่เกิดขึ้นได้

BURN OUT แค่หมดไฟ แต่ BROWN OUT ถึงหมดใจ

Burnout ภาวะหมดไฟ คือ ภาวะเหนื่อยล้าจากการทำงานที่มีความเครียดหรือกดดันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวที่สามารถเยียวยาให้หายได้อันเนื่องมาจากตัวบุคคลเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ Brownout เป็นภาวะของความเหนื่อยหน่ายกับเงื่อนไขและระบบขององค์กร โดยมักจะไม่แสดงอาการให้เห็นและยังคงทำงานได้เหมือนเดิม แต่ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัทจะค่อยๆ ลดลงจนลาออกไปในที่สุด

Brownout ภาวะหมดใจ เป็นภาวะอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับคนทำงาน ที่รู้สึกไม่มีความสุข เบื่อหน่าย และทุกข์ทรมานกับเงื่อนไขและระบบบางอย่างขององค์กร ซึ่งคนที่มีอาการ Brownout ยังสามารถทำงานได้อย่างปกติ เพียงแต่ความผูกพันธ์ของพนักงานกับองค์กรจะค่อยๆ ลดน้อยลง เกิดการถอยห่างจนกระทั่งลาออกจากองค์กรไปในที่สุด ส่วน Burnout คือภาวะการหมดไฟ หดหู่ในการทำงาน และเฉยชาต่อทุกสิ่ง เป็นผลมาจากการทำงานที่หนักมากเกินไป ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ Burnout เป็นเพียงอาการที่หมดไฟในการทำงานแต่ยังมีใจให้กับองค์กร แต่ Brownout คือการหมดใจกับทุกสิ่งในการทำงานและองค์กรนั้นเอง

ภาวะหมดไฟในการทำงานมีสาเหตุจากการได้รับภาระงานที่หนักและมีปริมาณมากอย่างต่อเนื่องยาวนาน การไม่ได้รับความยุติธรรม ขาดอำนาจในการตัดสินใจ รู้สึกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ได้รับแต่คําตําหนิไม่เคยได้รับคําชื่นชมจากผู้ร่วมงาน บรรยากาศองค์กรที่ขาดความเห็นอกเห็นใจกัน รวมถึงสาเหตุจากปัญหาความไม่สมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวและการที่มีความเข้มแข็งทางอารมณ์ในระดับต่ำ

พักสักครู่ เมื่อพบภาวะหมดไฟ BURN OUT

นอกจากการหยุดพัก เพื่อหาจังหวะใหม่ในการทำงานให้กับตัวเองแล้ว ยังมีคำแนะนำว่า ทางออกในระยะยาวๆ คือ การใช้เวลาที่หยุดพักนี่แหละ มาคิดใคร่ครวญกับตัวเองดู เช่น การตั้งคำถามถึงอนาคตที่เราต้องการ มีอะไรบ้างที่เราต้องปรับปรุง เช่นเดียวกับ เราแบกรับอะไรไว้เยอะเกินไปรึเปล่า แล้วเราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง

หลายครั้งที่ภาวะการหมดไฟ มักเกิดขึ้นจากการที่เราแบกรับภาระมากเกินไปจนที่ไม่รู้ตัว ช่วงเวลาพักผ่อนหลังจาก Burn out จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ตัดสินว่าพร้อมจะปลดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิตการทำงานบ้าง

Brownout ไปนั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเล ก็พอช่วยได้

พักยังไงให้หายเหนื่อยจากภาวะหมดใจ Brownout

1. หลีกห่างจากที่เดิม หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย : เช่นไปนั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเล สักพัก บางครั้งร่างกายก็ต้องการ Vitamin Sea

2. พักผ่อนให้เพียงพอ สร้างบรรยากาศการนอนที่ดี เช่น การจุดเทียนหอม การเปิดเพลงคลอเบาๆ : การนอนเป็นทางออกที่ดีเสมอ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าทางกายได้แล้ว สุขภาพจิตของคุณจะดียิ่งขึ้นหากได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ

3. ลดความเครียดลง โดยการหากิจกรรมทำนอกเวลา ฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย เป็นไปได้ลาพักร้อนเป็นระยะเวลายาวๆ ถ้าทำได้

4. ปรับทัศนคติในการทำงาน ทำความเข้าใจในเนื้องาน และองค์กรที่ทำงานด้วย

5. เล่าปัญหาและขอความช่วยเหลือ : หากคุณรู้สึกว่าปัญหาที่กำลังพบเจออยู่นั้นใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขด้วยตนเอง การแชร์ปัญหาที่คุณพบเจอให้กับเพื่อนร่วมงาน คนที่คุณไว้ใจ รวมถึงคนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ จะทำให้คุณได้รับแรงสนับสนุนและสามารถรับมือกับปัญหานั้นๆ

6. พาตนไปอยู่กับคนที่มีความคิดในแง่บวก : จงพาตนเองไปอยู่กับคนที่จะช่วยให้ดึงคุณออกจากสภาวะนั้นๆ และพร้อมที่ Cheer up คุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ เพื่อนสนิท คนรัก รวมถึงครอบครัวของคุณ ลองหาเวลาว่างออกไปสังสรรค์กับคนอื่นๆ เพื่อพาตัวเองออกจากวัฏจักรพลังแง่ลบนี้

7. ออกกำลังกายเป็นประจำ : นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณขจัดเรื่องงานออกจากสมอง และจัดการกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น