ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทรุดหนัก ล่าสุดหลุด 84 ดอลล์ คาดสงครามไม่ขยายวง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทรุดหนัก ล่าสุดหลุด 84 ดอลล์ คาดสงครามไม่ขยายวง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(11ต.ค.)ปรับตัวลงอย่างหนัก ล่าสุดหลุดระดับ 84 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ  2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.83 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

รัฐบาลซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะใช้ความพยายามร่วมกับพันธมิตรทั้งในและนอกภูมิภาคเพื่อป้องกันการลุกลามของสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

นอกจากนี้ แถลงการณ์ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะยังคงสนับสนุนให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับสิทธิตามกฎหมาย และบรรลุสันติภาพอย่างยั่งยืน

นายวิเวก ธาร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของธนาคารคอมมอนเวลธ์ ระบุในรายงานว่า เหตุการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

"การที่ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและอย่างยาวนาน เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้จะต้องกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน และทำให้ปริมาณน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก" รายงานระบุ

ทั้งนี้ อิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างก็ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ โดยอิสราเอลมีโรงกลั่นน้ำมันเพียง 2 โรง ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมกันราว 300,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ปาเลสไตน์ไม่มีการผลิตน้ำมัน

ด้านโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะยังไม่ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อปริมาณน้ำมันในตลาด แต่จะกระทบต่อการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย

ขณะเดียวกัน สหรัฐยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าอิหร่านมีส่วนร่วมโดยตรงในการโจมตีอิสราเอล ซึ่งหากสงครามไม่ขยายวงไปถึงอิหร่าน ก็จะไม่สามารถหนุนราคาน้ำมันในระยะยาว