กลุ่มเซ็นทรัลปลุกศักยภาพเมืองรอง 'นครพนม-หนองคาย' เทียบชั้นเมืองหลัก
กลุ่มเซ็นทรัล วางโรดแมปปลุกศักยภาพเมืองรองเทียบชั้นเมืองหลักขยายการลงทุนยึดทำเลยุทธศาสตร์ ‘นครพนม-หนองคาย’ ดันเศรษฐกิจไทยเชื่อมอินโดจีน พร้อมชูแนวคิด 'Growth for the Country, Great for Local Communities' ผ่าน 'เซ็นทรัล สร้าง' 'เซ็นทรัล พัฒนา' และ 'เซ็นทรัล ทำ'
-
กลุ่มเซ็นทรัลทุ่มงบกว่า 3,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายการลงทุน กางแผนยกระดับ 'นครพนม - หนองคาย' สร้างศักยภาพเมืองรองเทียบชั้นเมืองหลัก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ประตูภูมิภาคอินโดจีน
-
ปักหมุดทำเลยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพภายในประเทศ มุ่งสร้างสรรค์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ ควบคู่การดูแลคุณภาพชีวิตของผู้คน สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญพัฒนาเป็นไลฟ์สไตล์ฮับประจำถิ่น
-
ชูแนวคิด 'Growth for the Country, Great for Local Communities' ผ่านการดำเนินงาน 3 มิติ คือ 'เซ็นทรัล สร้าง', 'เซ็นทรัล พัฒนา' และ 'เซ็นทรัล ทำ'
เส้นทางธุรกิจกว่า 7 ทศวรรษของ 'กลุ่มเซ็นทรัล' มุ่งขยายอาณาจักรสร้างการเติบโตให้องค์กรไปพร้อมๆ กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความเจริญให้ประเทศไทย ผ่านการ 'สร้างคุณค่าร่วมกัน' กับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับสังคมให้เติบโตไปด้วยกันแบบองค์รวมตั้งแต่ต้นน้ำจรดปลายน้ำ ทั้งธุรกิจ สังคม ชุมชน ลูกค้า และคู่ค้า
สะท้อนพันธกิจและวิสัยทัศน์อันแรงกล้า! ที่บ่มเพาะจากผู้ก่อตั้ง คุณเตียง จิราธิวัฒน์ คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ และ คุณวันชัย จิราธิวัฒน์ ถ่ายทอด 'ดีเอ็นเอ' สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น สู่ก้าวย่างแห่งปีที่ 76 กลุ่มเซ็นทรัลยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง มุ่งหน้า 'หัวเมือง' หรือ 'เมืองรอง'
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มเซ็นทรัลในฐานะผู้นำค้าปลีกและบริการ รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ คือ การขยายธุรกิจควบคู่การยกระดับเมือง สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชุมชนและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในพื้นที่ ภายใต้แนวคิด 'Growth for the Country, Great for Local Communities' ผ่านการดำเนินงาน 3 มิติ 'เซ็นทรัล สร้าง' 'เซ็นทรัล พัฒนา' และ 'เซ็นทรัล ทำ'
การขยายธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล เน้นภูมิภาคที่มีศักยภาพเพื่อสร้างสรรค์ให้เป็น 'เมืองท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์' ควบคู่การดูแลคุณภาพชีวิตของผู้คน สังคม สิ่งแวดล้อม พัฒนาสู่ 'ไลฟ์สไตล์ฮับประจำถิ่น' ปลุกกระแสท่องเที่ยวเมืองรองให้คึกคักยกระดับสู่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ระดับฐานรากถึงระดับบน
บุกเบิกเมืองศักยภาพ ด้วย เซ็นทรัล...สร้าง
การบุกเบิกเมืองศักยภาพของกลุ่มเซ็นทรัลเริ่มจากยุทธศาสตร์ 'สร้างเมืองให้เข้มแข็ง' มุ่งลงทุนและขยายโครงการที่เน้นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมอย่างรอบด้าน (Impact Investment) โดยเฉพาะ 'เมืองรอง' ปักหมุดพัฒนาย่านคุณภาพสู่แลนด์มาร์กแห่งการใช้ชีวิต หรือ Central of Life นำโดยเรือธง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดสรรงบลงทุนกว่า 135,000 ล้านบาท ในช่วง 5 ปี (2566-2570) หรือเฉลี่ยลงทุนปีละ 30,000 ล้านบาท ครอบคลุม 30 จังหวัด ปักหลักสร้างเมืองที่จะนำมาสู่ การ 'สร้างความเจริญให้ชุมชน' ที่จะถูกต่อยอดด้วย โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ และเวลเนส เซ็นเตอร์ เป็นทำเลทองด้วยการ 'สร้างการลงทุนให้หลากหลาย' ในรูปแบบ Mixed-Use Development ครอบคลุมศูนย์การค้า ค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย
โดยโปรเจกต์ไฮไลต์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มจาก 'ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ นครพนม' ลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เตรียมเปิดบริการไตรมาส 4 ปี 2567
นครพนม ถือเป็นเมืองหน้าด่านการค้าและการท่องเที่ยวสู่ภาคอีสาน ตั้งอยู่เขตชายแดนติดเมืองท่าแขก ประเทศลาว มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 รองรับการเดินทาง ขนส่ง และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงไทย ลาว เวียดนาม และภาคใต้ของจีน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามและจีนตอนใต้ให้มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุดในประเทศไทย รวมทั้งการก่อสร้างรถไฟรางคู่สายใหม่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม จะเสริมศักยภาพขนส่งมวลชนได้ดียิ่งขึ้น
“การพัฒนาโครงการใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล จะเสริมศักยภาพนครพนมให้เป็นเมืองสุดฮิป! ในแดนอีสาน ถูกใจนักท่องเที่ยวสไตล์ฮิปสเตอร์ไม่ซ้ำใคร ซึ่งนครพนมมีนักท่องเที่ยว 1.5 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้จากท่องเที่ยว 2,200 ล้านบาท”
ในปี 2567 ยังเตรียมเปิดบริการ 'ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ หนองคาย' ลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ซึ่ง “หนองคาย” เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นเมืองชายแดนติดกับนครหลวงเวียงจันทน์และแขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว มีจุดผ่านแดนด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่สำคัญเป็นประตูการค้าสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน! จึงเป็นที่นิยมในการเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของเพื่อนบ้าน
อนาคตหนองคายจะเป็น 'Transportation Hub' ทั้งทางบก ราง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ ไทย-ลาว-จีน-คุณหมิง อีกด้วยส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-ลาว ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาทต่อปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ภาคท่องเที่ยวกว่า 3,350 ล้านบาท
จะเห็นว่า การลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งนครพนมและหนองคาย รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ผลักดันการขยายตัวทางการค้า การลงทุน การบริการ การท่องเที่ยว การจ้างงาน ยกระดับความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ดียิ่งขึ้นและยั่งยืน
สำหรับ ภาคกลาง เตรียมเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ ไตรมาสแรกปี 2567 ซึ่งตั้งอยู่บนแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridors (NSEC) เสริมความแข็งแกร่งให้จังหวัดนครสวรรค์ควบคู่แผนภาครัฐในการพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายเหนือ รถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-แม่สอด โดยนครสวรรค์ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย-จีน เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่
พร้อมเปิด ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ไตรมาสสอง ปี 2567 เป็นการขยายไปภาคตะวันตกโดยมีนครปฐมเป็นประตูเชื่อมราชบุรี และกาญจนบุรี เป็นศูนย์กลางของเมืองรองที่ตอบโจทย์ลูกค้าโดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
พัฒนาคน เมือง ประเทศ ด้วย เซ็นทรัล...พัฒนา
ทศ กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของกลุ่มเซ็นทรัลมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบ Community-based tourism and sustainable tourism ปั้นเมืองรองให้โดดเด่น ไม่เพียงกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น แต่ร่วมปักธงไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก! ดึงดูดนักลงทุน นักเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เข้ามายังพื้นที่ร่วม 'พัฒนาเมือง'และ 'พัฒนาประเทศ'
เมื่อพื้นที่หัวเมืองหรือเมืองรองเกิดการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่จะกลายเป็น 'เดสติเนชั่น' แห่งการชอปปิง อาหาร แบรนด์ดัง แฟชั่น และการใช้ชีวิต ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก ชุมชน เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายใหญ่ เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ผู้คนทุกระดับมีรายได้ในการจับจ่าย นับเป็นการ 'พัฒนาคน' ยิ่งธุรกิจมีสภาพคล่องที่ดี การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเติบโตนำสู่เม็ดเงินสะพัดในอีโคซิสเต็ม โดยกลุ่มเซ็นทรัลคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีพนักงานประจำรวมกว่า 100,000 คน จ้างงานมากกว่า 300,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ
ยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม ด้วย เซ็นทรัล...ทำ
เซ็นทรัลมุ่ง 'ทำให้สังคมน่าอยู่' ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เติบโตร่วมกันอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้ทุกคนในสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ 'เซ็นทรัล ทำ' - ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ ด้วยแนวคิดการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Values-CSV)
โดย 'ทำการพัฒนาพื้นที่' ครอบคลุม 44 จังหวัด ด้วยงบกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ในปี 2566 ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ชุมชน 1,800 ล้านบาท ปลูกป่า 6,500 ไร่ ตามด้วย 'ทำเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษา' ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบ Project-based Learning ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงในฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาหลักสูตรการศึกษา พัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมไปถึงปรับปรุงสถานศึกษา มอบทุนการศึกษา
'ทำให้คนพิการมีงานทำ' สอนทักษะและสร้างอาชีพคนพิการ เปิดโอกาสโดยการรับเป็นพนักงานประจำกว่า 80 คน ที่ ศูนย์ Contact Center และศูนย์ซ่อม นอกจากรายได้ที่มั่นคงแล้ว สิ่งสำคัญ คือ การได้รับการยอมรับจากคนในสังคม "ทำให้ชุมชนมีรายได้ที่ยั่งยืน" ผ่านโครงการจริงใจ ฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรท้องถิ่นนำพืชผักผลไม้ปลอดภัยและสินค้าขึ้นชื่อของชุมชนมาจำหน่ายในพื้นที่ของกลุ่มเซ็นทรัล สร้างรายได้ที่มั่นคง ปัจจุบันขยายสาขากว่า 32 สาขาทั่วประเทศ สนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรกว่า 10,000 ครัวเรือน สร้างรายได้ให้ชุมชน 255 ล้านบาท
'ทำพื้นที่ให้มีประโยชน์ต่อชุมชน' มอบพื้นที่จำหน่ายสินค้าฟรี ปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท 'ทำให้เป็นธุรกิจสีเขียว' มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2050 พร้อมขับเคลื่อนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ศูนย์การค้าต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้พลังงานทดแทน การติดตั้งหลังคาโซล่าร์เซลล์ สถานีอีวีชาร์จเจอร์ การบริหารจัดการขยะ ฯลฯ
'ทำให้ทุกคนมีความสุขด้วยการมีคุณภาพชีวิตที่ดี' ด้วยการพัฒนาสินค้าชุมชนและจัดหาช่องทางตลาด ส่งเสริมและบูรณะพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี การสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ส่งเสริมเอสเอ็มอี เป็นต้น
ความร่วมมือและลงมือทำ! สร้างเมืองน่าอยู่ พัฒนาเมืองต้นแบบ "ศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ" ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง