ททท. ชูเป้าหมาย 'เดสติเนชันยั่งยืน' ปี 67 ตอกย้ำไทย 'มหาอำนาจท่องเที่ยวโลก'
'ททท.' ชูเป้าหมายท่องเที่ยวปี 67 เปลี่ยนมายด์เซ็ต 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ' มองประเทศไทยมุมใหม่ 'จุดหมายปลายทางแห่งความยั่งยืน' ตอกย้ำตำแหน่ง 'มหาอำนาจท่องเที่ยวโลก' ดันแพ็กเกจทัวร์รักษ์โลกขายได้จริง นำร่องเจาะตลาดยุโรป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในหัวข้อ “กลยุทธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวยั่งยืน” บนเวที Road To Net Zero โอกาส & ความท้าทายทางธุรกิจ จัดโดย ฐานดิจิทัล x TGO ว่า หลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. คนใหม่เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 ได้วางยุทธศาสตร์ “PASS” ขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวซึ่งกำลังถูกสปอตไลต์ในขณะนี้ ประกอบด้วย 1.Partnership 360 ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.Accelerate Access to Digital World พัฒนาองค์กรบนพื้นฐานการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล
3.Sub-Culture Movement การลงลึกถึงระดับความเคลื่อนไหวของกลุ่มวัฒนธรรมย่อย แม้ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจการท่องเที่ยว แต่การแข่งขันช่วงชิงนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นสิ่งที่เคยทำอย่างการทำตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มกระแสหลักและกลุ่มความสนใจเฉพาะยังต้องเดินหน้า แต่ต้องเจาะกลุ่มความเคลื่อนไหวของวัฒนธรรมย่อยด้วย เพื่อสร้างความแตกต่างแก่ทั้งองคาพยพท่องเที่ยวไทย จำเป็นต้องลงลึกถึงระดับดีเอ็นเอความชอบของนักท่องเที่ยวที่มีเหมือนๆ กัน
และ 4.Sustainably NOW มุ่งสู่ความยั่งยืนแบบทันที เพราะความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ แต่ต้องเดินเข้าหา ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถยืนอยู่บนโลกธุรกิจได้ เช่น ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย นับเป็นต้นทุนที่มีเหนือกว่าประเทศอื่นๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัส แต่เมื่อเกิดภาวะโลกร้อน อย่างภาวะไฟป่าใน จ.เชียงใหม่ ทำให้ไม่สามารถท่องเที่ยวได้หลายเดือน นี่คือสิ่งที่กระทบชัดเจนต่อภาคการท่องเที่ยว
“เมื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวถูกท้าทายด้วยสิ่งแวดล้อม บรรยากาศไม่ดี นักท่องเที่ยวก็ไม่อยากมา เพราะเขามองว่าเป็นเดสติเนชันที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นเดสติเนชันที่มีคุณภาพ จะให้นักท่องเที่ยวมองเราแบบเดิมไม่ได้ การฟื้นสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่เราถวิลหา”
ทั้งนี้ ททท.ได้ปรับยุทธศาสตร์ไปสู่การท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน มุ่งเน้นกิจกรรมท่องเที่ยวลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรลุเป้าหมายจัดการอย่างยั่งยืน (SDGs) โดย ททท.นำแนวคิด Sustainable Tourism Goals (STGs) มาสร้างสมดุลใหม่แก่ภาคท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในยุคหลังโควิด-19 ระบาด นอกจากนี้ยังปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสานต่อแนวคิด BCG และให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ความหลากหลายทางชีวภาพ และกลุ่มผู้คน นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ในการเพิ่มมูลค่า
“เทรนด์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในตอนนี้ ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในแง่ความยั่งยืนอย่างมาก ทำให้ ททท.วางเป้าหมายปี 2567 มุ่งเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) ของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทย สู่การเป็นจุดหมายปลายทางที่มีคุณค่าสูงและความยั่งยืน (High Value and Sustainable Tourism Destination) เพื่อยืนยันว่าภาคท่องเที่ยวไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำลายโลก”
หลังจาก ททท.ได้สำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ทั่วโลก พบว่านอกจากความสุขที่ได้รับจากการท่องเที่ยวแล้ว แต่ถ้าได้ประสบการณ์ที่มีความหมาย (Meaningful Travel Experience) ก็เป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปค้นหา ททท.จึงยึดหลัก Give & Get ในการโปรโมต ว่าการจับจ่ายหรือสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวนั้นๆ ได้ให้อะไรแก่สังคมบ้าง
ล่าสุด ททท. ได้เปิดตัวโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating เมื่อเดือน ส.ค. เพื่อให้ดาว 3-5 ดาวแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว มุ่งยกระดับห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน สอดรับเป้าหมาย STGs โดย ททท.ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2568 จะต้องมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ และได้รับดาวไม่ต่ำกว่า 85%
“ถ้าผู้ประกอบการรายใดไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง STGs ทาง ททท.ก็อาจจะไม่ได้ให้การประชาสัมพันธ์และส่งเสริมตลาดเป็นกลุ่มแรกๆ เหมือนกับกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เริ่มต้นจากการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อให้บริการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำร่องใน 5 เมืองท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ โดยได้ให้ผู้อำนวยการ ททท. จากสำนักงานที่ดูแล 5 เมืองนี้ไปเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืนที่ประเทศเดนมาร์กและสวีเดน พบว่าผู้ประกอบการทัวร์ดีใจมากที่ประเทศไทยเปลี่ยนภาพลักษณ์สู่ความยั่งยืนและต่อยอดสู่การขายแพ็กเกจทัวร์ได้จริง