ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว!

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว!

ผ่านครึ่งทางแรก “ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” มูลค่าหลัก “แสนล้านบาท” มีการเติบโตถึง 14.8% ส่วนหนึ่งเพราะไตรมาส 2 เป็นไฮซีซั่น สภาพอากาศร้อนระอุ ส่งผลต่อการบริโภคสินค้า เพื่อดับกระหาย ให้ความสดชื่น แต่ธุรกิจไม่ได้โตเสมอไป ส่องผลงานบิ๊กคอร์ปใครโต-ยอดขายตก

ตลาดเคื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีหลายหมวดหมู่ เช่น น้ำอัดลม น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มฟังก์ชันนอล ชาเขียวพร้อมดื่ม เป็นต้น ซึ่งแต่ละแคทิกอรี มูลค่าหลายพันล้านไปจนถึงหลักหลาย “หมื่นล้านบาท”

แม้อากาศร้อนคือแรงส่งที่ดี ต่อการเติบโต ทว่า “กำลังซื้อ” ที่เปราะบาง มีผลต่อการตัดสินใจซื้อไม่น้อย รวมถึง “ราคา” และ “โปรโมชั่น” ที่แบรนด์แข่งเดือด ทำให้ผู้บริโภคพร้อมเปลี่ยนใจหรือ Brand Switching หน้าตู้แช่ และชั้นวาง(เชลฟ์)ได้ไม่มากก็น้อย จึงนำไปสู่ “ผลงาน” ยอดขายของค่ายต่างๆ

  • ร้อนไม่ช่วยอะไรเลย “โอสถสภา-คาราบาว กรุ๊ป” ยอดขายหด

2 ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มชูกำลัง ยังเหนื่อย เพราะยอดขายยังเจอโจทย์ยาก เริ่มที่ “บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน)” ทำรายได้จากการขายไตรมาส 2 อยู่ที่ 6,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และ “ลดลง” 6.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแรงหนุนทำให้ยอดขายเติบโตในไตรมาส 2 เพราะเครื่องดื่มชูกำลังเติบโต 6.4% จากไตรมาสก่อน และเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลโต 13.3%

ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 549 ล้านบาท เติบโต 14.9% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หดตัวลง 6%

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว! ด้านสินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคลไตรมาส 2 ทำยอดขาย 566 ล้านบาท ลดลง 3.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้อื่นๆ เช่น การรับข้างผลิตขวดแก้ว(OEM) อยู่ที่ 656 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะรายได้จากโออีเอ็มหดตัวลง

สำหรับภาพรวมครึ่งปีแรก 2566 บริษัททำรายได้จากการขาย 13,255 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการ “ปรับราคาสินค้า” เครื่องดื่มชูกำลังเอ็ม-150 จาก 10 เป็น 12 บาท แม้ภายหลังจะออกสินค้าใหม่ราคา 10 บาท มาแก้เกมก็ตาม

ด้านสินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคลทำยอดขายรวม 1,121 ล้านบาท ลดลง 1.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และรายได้อื่นๆอยู่ที่ 1,368 ล้านบาท เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากรายได้กลุ่มสินค้าลูกอมฟื้นตัวจากช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่และรับจ้างผลิตขวดแก้ว

ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2566 อยู่ที่ 1,327 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ทำให้โอสถสภา ยังมีโจทย์ท้าทายเพื่อฟื้นยอดขาย

ทว่า ผลงานไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก กลุ่มเครื่องดื่มยังมีความน่าสนใจ เมื่อเครื่องดื่มชูกำลังไตรมาส 2 ครองส่วนแบ่งตลาดรวมหรือคอร์ปอเรท แชร์ 47.5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.9% จากไตรมาสก่อน จากภาพรวมเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 21,000 ล้านบาท ส่วนเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลอยู่ที่ 42.1% เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหัวหอกโตทั้ง “ซี-วิท” และ “คาลพิส” เติบโตในอัตรา 2 หลัก รวมทั้ง “เปปทีน” ที่โตดี ขณะที่ภาพรวมเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลมีมูลค่า 7,900 ล้านบาท

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว! เช่นเดียวกับ “บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)” หรือ CBG มีรายได้จากการขายไตรมาส 2 ปี 2566 อยู่ที่ 4,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ “หดตัว” 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวันปีก่อน เมื่อแยกยอดขายประเทศยังทำเงิน 68% หรือมูลค่า 3,202 ล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนตลาดต่างประเทศสัดส่วน 32% ทำเงิน 1,505 ล้านบาท “หดตัว” 28% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งตลาดกัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนามหรือ CLMV และตลาดจีน ส่วนอังกฤษ และอื่นๆมีการเติบโต

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ ไตรมาส 2 อยู่ที่ 482 ล้านบาท แม้จะเพิ่มขึ้น 83% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เทียบกับชาวงเดียวกันปีก่อนกลับ “ลดลง” ถึง 35%

  • น้ำอัดลมภาคใต้โต ขานรับท่องเที่ยวฟื้น

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ผลิตและทำตลาดโค้ก น้ำทิพย์ ในพื้นที่ภาคใต้ และอิงตลาดท่องเที่ยวอย่างมีนัยยะ เมื่อเครื่องยนต์หรือการท่องเที่ยวฟื้นตัวจึงมีผลต่อธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด

ไตรมาส 2 บริษัทสร้างรายได้จากการขาย 1,984.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านการขาย “เชิงปริมาณ” อยู่ที่ 17.8 ล้านลัง เพิ่มขึ้น 5.8% เป็นการเพิ่มทั้ง “มูลค่า” และปริมาณการบริโภคนั่นเอง

การฟื้นตัวของยอดขายบริษัท ยังสอดคล้องกับภาพรวตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งรายงานจาก “นีลเส็น” ระบุตลาดในภาคใต้เติบโต 21.5% จากภาพรวมตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งประเทศเติบโต 14.8%

ยอดขายบริษัทเติบโต ยังมาจากกลยุทธ์การทำตลาดด้วย ทั้งมีสินค้าขนาดและรูปแบบต่างขายผ่านช่องทางจำหน่ายตอบโจทย์ลูกค้า เช่น การบริโภคครั้งเดียว(Sigle Serve) แก่รายย่อย ร้านสะดวกซื้อและช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร บริการจัดเลี้ยงหรือ HORECA การออกสินค้าสูตรไม่มีน้ำตาลเติมพอร์ตโฟลิโอ ตอบเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ รวมถึงน้องใหม่ “อู-ฮ่า”(OOHA) และที่ผ่านมาต้นทุนเป็นแรงกดดันผู้ผลิตสินค้า จึงมีการ “ขึ้นราคา” กลุ่มน้ำอัดลมบางบรรจุภัณฑ์ขยับถึง 6% มีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565- เมษายน 2566 แต่โดยรวมราคาขึ้น 1.5%

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว! ส่วนการทำกำไรสุทธิ ไตรมาส 2 อยู่ที่ 150.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.8% ขณะที่ภาพรวม 6 เดือน ปี2566 บริษัทมีรายได้จากการขาย 4,035.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และการขายเชิงปริมาณอยู่ที่ 36.2 ล้านลัง เติบโต 11.1% ด้านกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2566 อยู่ที่ 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59%

  • บิ๊กชาเขียว คึกคักทำเงิน

ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีมูลค่ากว่า “หมื่นล้านบาท” โดย 2 ผู้เล่นสำคัญหนีไม่พ้น “โออิชิ-อิชิตัน” มาดูผลงานของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ไตรมาส 2 มีรายได้จากการขาย 2,029.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการขายในประเทศเติบโต 26% จากกลุ่มชาพร้อมดื่มที่ยังเป็นพระเอก รวมถึงสินค้าใหม่ ส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น 22.5% จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวและการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็ม ด้านกำไรสุทธิ ไตรมาส 2 อยู่ที่ 152.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6%

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว! ทั้งนี้ ครึ่งปีแรก 2566 บริษัทมีรายได้จากการขาย 3,862.3 ล้านบาท เพื่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 477.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

  • 2 ค่ายเครื่องดื่ม “เจ้าสัวเจริญ” โกยกำไรโต

“โออิชิ-เสริมสุข” 2 หัวหอกค่ายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ทำผลงานได้อย่างดี โดยบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) รายได้ไตรมาส 3(ตามปีงบประมาณบริษัท ต.ค.65-ก.ย.66) สร้างรายได้จากการขาย 3,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4%

เมื่อแยกตามกลุ่มธุรกิจ เครื่องดื่มทำรายได้ 2,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนธุรกิจอาหารทำรายได้ 1,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% ขานรับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระตุ้นการบริโภคอาหารที่ร้าน(Dine-in) ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท หรือโต 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่ 9 เดือนปี 2566 บริษัทสร้างยอดขายรวม 10,807 ล้านบาท เติบโต 15.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,047 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36 ล้านบาท หรือราว 3.6%

ด้านบริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ผลงานไตรมาส 3 ทำรายได้รวม 3,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดขายน้ำอัดลม “เอส” และน้ำดื่ม “คริสตัล” ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว! เอส ปรับสูตร-พลิกโฉมรอบ 10 ปี

เมื่อรวม 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวม 9,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย 2 สินค้าเรือธงทั้งน้ำอัดลม “เอส” และน้ำดื่ม “คริสตัล” ได้อานิสงส์ จากเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวฟื้นตัว กำลังซื้อของภาคครัวเรือนดีขึ้น ที่สำคัญการปรับตัวจากภายใน กับกลยุทธ์ “รีแบรนด์” ครั้งใหญ่ของ “เอส” ในรอบทศวรรษ ทำให้ยอดขายโตนั่่นเอง ส่วนกำไรสุทธิ 9 เดือน อยู่ที่ 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ คุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ

  • เซ็ปเป้ รุกหนักต่างประเทศเบ่งอาณาจักร

ด้านบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด(มหาชน) หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดเครื่องดื่ม และมุ่งหน้าพาแบรนด์ไทยสู่แบรนด์โลก(Global Brand) สร้างผลงานไตรมาส 2 ไม่แพ้ใคร โดยทำรายได้อยู่ที่ 1,656.9 ล้านบาท เติบโต 34% จากไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 312.3 ล้านบาท เติบโต 86.7% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ผ่านร้อน ไฮซีซั่น ส่องผลงานบิ๊กเครื่องดื่ม ค่ายไหนโต-หดตัว!

ตลาดสำคัญของเซ็ปเป้

ทั้งนี้ การทำตลาดของเซ็ปเป้ยังเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้าไปยัง 98 ประเทศทั่วโลก โดยหนึ่งในตลาดหลักที่มีศักยภาพ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฟิลิปินส์ ส่วนยุโรป กำลังเป็นจิ๊กซอว์ ที่บุกหนัก

ตลาดต่างแดนที่สร้างผลงานโดดเด่น ทวีปยุโรป เติบโตสูงถึง 126.2% ทวีปอเมริกาเติบโต 34.3% ตะวันออกกลางโต 60.6% และเอเชียโต 11.1% โดยสินค้าเรือธงได้แก่ เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ “โมกุ โมกุ” และ เครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ “เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์”