ไทย 'ขาดดุลท่องเที่ยว' ญี่ปุ่น! ททท.สปีดดึง 'ญี่ปุ่นเที่ยวไทย' 5 แสนคนปี 66
'การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย' ยอมรับว่าช่วงครึ่งแรกปี 2566 หลังผ่านยุคโควิด-19 "ไทยขาดดุลท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!" หลังญี่ปุ่นประสบปัญหาเศรษฐกิจ เงินเยนอ่อนค่า กระทบการตัดสินใจเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่คนไทยแห่เที่ยวญี่ปุ่นเฉียด 5 แสนคน
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทย “ขาดดุลท่องเที่ยว” ให้กับญี่ปุ่น! หลังจากในอดีตไทยเกินดุลญี่ปุ่นมาตลอด เพราะเมื่อดูสถิติการเดินทางช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2566 พบว่ามีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวน 497,700 คน ฟื้นตัว 73% เมื่อเทียบกับจำนวน 683,595 คนของช่วงเดียวกันเมื่อปี 2562 โดยมากกว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยช่วง 6 เดือนแรกซึ่งมีจำนวน 326,347 คน ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่
ขณะเดียวกัน ททท.ยังพบว่า 6 เดือนแรกปีนี้มีนักท่องเที่ยว “เกาหลีใต้” แซงหน้าญี่ปุ่น เดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 757,767 คน ถือเป็นตลาดที่ฟื้นตัวอย่างสดใส มีจำนวนมากเป็นอันดับ 4 ของตลาดชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงสุด รองจากมาเลเซีย จีน และรัสเซีย เพราะเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะเบียดสูสีกันมาตลอด โดยปี 2562 พบว่ามีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 1,880,465 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 1,787,185 คน
“จากสถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นในตอนนี้ ทำให้ ททท.ต้องไปค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมกับเร่งหาทางส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้มาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น”
โดยพบว่าสาเหตุที่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทยน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ มีผลมาจากภายในประเทศญี่ปุ่นเพิ่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับชาวญี่ปุ่นที่จะเดินทางออกนอกประเทศเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นผลให้ชาวญี่ปุ่นยังเดินทางออกนอกประเทศค่อนข้างน้อย เพราะก่อนหน้านั้นมาตรการควบคุมดังกล่าวทำให้ชาวญี่ปุ่นลังเลในการเดินทางพอสมควร
ขณะเดียวกันสำนักงานโอซากาของ ททท. ได้เจาะลึกข้อมูล พบว่าปี 2562 มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยประมาณ 10% ของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางไปต่างประเทศทั้งหมด ขณะที่ปี 2565 ไปไทยเพิ่มเป็น 12% ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่าก่อนเกิดโควิดแล้ว เพราะฉะนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปไทยมีสัดส่วนน้อย เป็นเพราะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางออกนอกประเทศน้อยด้วย ส่วนปี 2566 คาดหวังขอให้เดินทางไปไทยถึงสัดส่วน 15% ของทั้งหมด ททท.ก็พอใจแล้ว
“ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของชาวญี่ปุ่นในตอนนี้คือปัญหาเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เงินเยนอ่อนค่า ททท.จึงประเมินว่าตลอดปี 2566 ไทยน่าจะขาดดุลด้านการท่องเที่ยวให้ญี่ปุ่น เนื่องจากมีชาวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่าชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย”
สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ซึ่งเป็นสมาคมของบริษัทนำเที่ยวที่ทำตลาดทัวร์เอาต์บาวด์ (Outbound) พาคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีชาวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นแตะ 1 ล้านคน ฟื้นตัวเกือบ 80% เทียบกับเมื่อปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น 1,319,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 4.1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินเข้าญี่ปุ่น 31,880,000 คน มากเป็นอันดับ 6 รองจากเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐ
ขณะที่ ททท.ตั้งเป้าหมายปีนี้มีชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนคน แม้จะฟื้นตัวช้า แต่ก็หวังว่าจะเร่งสปีดได้ในปลายปีนี้ โดยต้องลุ้นว่าช่วง “เทศกาลโอบ้ง” หรือวันหยุดยาวช่วงฤดูร้อนในเดือน ส.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นมักเดินทางกลับบ้านและกราบไหว้บรรพบุรุษ จะตัดสินใจออก “เที่ยวล้างแค้น” ในต่างประเทศช่วงนี้หรือไม่
ยุทธศักดิ์ เล่าเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ททท.จัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Osaka” ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ค. ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้า Abeno Q’s Mall นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ปลุกพลังการท่องเที่ยวด้วย “ซอฟต์พาวเวอร์ 5F” ได้แก่ Food: อาหาร, Film: ภาพยนตร์, Fashion: การออกแบบแฟชั่นไทย, Fight: ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ Festival: เทศกาลประเพณีไทย โดยนำนักแสดง “ซีรี่ส์วาย” หรือ Boys Love “ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง” และ “บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล” ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชมชาวญี่ปุ่นมาร่วมงานด้วย พบว่าได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีแฟนคลับชาวญี่ปุ่นต่อแถวเพื่อรับบัตรคิวตั้งแต่ช่วงเช้า ทั้งๆ ที่งานจัดขึ้นในช่วงเย็น
นอกจากนั้น ภายในงานได้จัดบรรยากาศแบบงานวัดและเทศกาลที่สอดคล้องกับฤดูกาลต่างๆ ของประเทศไทย ได้แก่ ฤดูร้อน-เทศกาลสงกรานต์ ฤดูฝน-ประเพณีที่เกี่ยวกับข้าว และฤดูหนาว-เทศกาลลอยกระทง โดยไฮไลต์สำคัญคือกิจกรรมสาธิตการทำโรตีสายไหมจากร้าน “โรตีสายไหมแม่ป้อม-ร้านแม่” ต้นตำรับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลิน ไกด์ ประจำปี 2022-2023 ซึ่งชาวญี่ปุ่นมองว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ด้านอาหารของจังหวัดที่เขาชื่นชอบ
นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอ “แม่ไม้มวยไทย” สุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ชวนผู้เข้าร่วมงานแต่งชุดไทยถ่ายภาพ พร้อมนิทรรศการเกี่ยวกับชุดไทยในยุคสมัยต่างๆ และการแสดงทางวัฒนธรรมที่สื่อถึงเทศกาลประเพณีในภูมิภาคต่างๆ อาทิ การแสดงชุดเทศกาลสงกรานต์ไทยสี่ภาค การแสดงชุดรำขวัญข้าวสี่ภาค การแสดงชุดลอยกระทงสี่ภาค กิจกรรมเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานรำวงสนุกสนานแบบไทย รวมถึงกิจกรรม Workshop และ DIY ประดิษฐ์กระทง และกิจกรรมสานปลาตะเพียนจากใบลานและลงสี ทั้งหมดนี้เพื่อกระตุ้นให้ชาวญี่ปุ่นตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวในยุคหลังโควิด-19
