สงคราม 'อีคอมเมิร์ซ' เป็นมากกว่าแย่งยอดขาย แต่คือศึกชิง Data ธุรกรรมนักช้อป

สงครามการค้าออนไลน์ เป็นมากกว่าการแก่งแย่งอำนาจซื้อของลูกค้า แต่ยุคนี้คือการรู้ Insgiht นักช้อป เก็บข้อมูลหรือ Data พฤติกรรมต่างๆของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้รบร้อยครั้งชนะต้องมากกว่าแพ้ depa ไพรซ์ซ่า ไวซ์ไซท์ ปั้น Etailligence หวังรู้จักขาช้อปชาวไทยต่อยอดธุรกิจ
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เดินหน้าสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย พร้อมจับมือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล(depa) และแพลตฟอร์ม Etailligence อีคอมเมิร์ซน้องใหม่ ที่กำลังจะให้บริการแก่ผู้ประกอบการคนไทย
รวมถึงการร่วมมือกับ ZWIZ.AI ในการเปิดตัวทีม “ZOCIAL EYE TRAINER” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือ ZOCIAL EYE ที่จะมาช่วยธุรกิจปลดล็อกศักยภาพการใช้งานข้อมูล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล
ในงานยังมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “สงครามข้อมูล” หรือ Data ที่โลกกำลังแก่งแย่งรู้ “Insight” ของพลเมืองดิจิทัล และหาทาง “สกัดคู่แข่ง” ผ่านการแบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะจาก 2 ขั้ว “มหาอำนาจ” สหรัฐ VS จีน
ย้อนกลับมามองตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทย คือสมรภูมิของ “ยักษ์ข้ามชาติ” เพราะผู้เล่นที่มีบทบาท ได้แก่ Shopee และ LAZADA ทำให้ข้อมูลการซื้อขายสินค้าหรือชอปปิงของผู้บริโภค ถูกเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุนไทย ผู้ประกอบการเทคคัมปะนี ที่มีความรู้ต้องการปั้นอีคอมเมิร์ซ “Etailligence” ไม่เพียงให้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการไทย แต่ยังรู้จักผู้บริโภคและเก็บข้อมูลไว้ให้ต่อยอดประโยชน์ได้ด้วย
- ปี 2570 อีคอมเมิร์ซไทยแตะ 1.6 ล้านล้านบาท
ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Priceza ที่ปรึกษา และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA) ฉายภาพว่า ตลาดชอปปิงออนไลนื จะอีคอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ชเริ่มวิ่งเข้าหากันมากขึ้น พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบซื้อสินค้าโลกออนไลน์ จึงคาดการณ์ตัวเลขตลาดอีคอมเมิร์ซจะทยานสู่มูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570 จากปี 2563 มูลค่าอยู่ที่ 9.32 แสนล้านบาท เติบโตราว 14% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ข้อมูลการช้อปผ่านอี-มาร์เก็ตเพลส สัดส่วนถึง 51% เพิ่มจากปี 2563 อยู่ที่ 31% และเป็นโซเชียลคอมเมิร์ซ 22% (ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก ไลน์ ทวิตเตอร์ ฯ ) ฟู้ดเดลิเวอรี และซูเปอร์แอ๊ป(แกร๊บ ไลน์แมน ออล ออนไลน์ โรบินฮู้ด ฯ ) ค้าปลีก 4% (เซ็นทรัล วัตสัน บิ๊กซี โฮมโปร ฯ) เป็นต้น
ข้อมูลกองอยู่ที่แพลตฟอร์มต่างประเทศ ทำให้ที่ผ่านมา สมาคมฯมีความพยายามหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินนโนบายที่เอื้อประโยชน์ด้านข้อมูลการทำธุรกรรม ครั้นจะปั้นอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยแข่ง ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลและ “ช้าไป” กลับกันตลาดดังกล่าวยังมีกระบวนท่าอีกมากมายให้เล่น
- อย่าปล่อยให้ทุนข้ามชาติกุม Data ธุรกรรมนักชอปไทย
“ตอนนี้ Data การทำธุรกรรมชอปปิงออนไลน์ ผูกกับแพลตฟอร์มต่างชาติ หากมองเมกะเทรนด์ใหญ่ และปัญหาที่เกิดขึ้นในเชิงภูมิรัฐศาสตร์โลก จะเห็นว่าการที่คนอเมริกันใช้ TikTok ถึง 150 ล้านคน จนซีอีโอต้องถูกเรียกสอบโดยทางการสหรัฐ เพราะแพลตฟอร์จีนกำลังรู้พฤติกรรมคนอเมริกันถึงร้อยล้านคน เป็นปัญหาระดับโลก ไม่ใช่แค่ปัญหาของสหรัฐ เพราะตีความว่าพฤติกรรมคนอเมริกันผูกกับแพลตฟอร์มชาติจีน”
เช่นเดียวกับไทยที่ราว 2 ล้านล้านธุรกรรม ถูกผูกไว้ที่แพลตฟอร์มจีน หากอยากให้พฤติกรรม ธุรกรรมชอปปิงของคนไทยมาผูกที่แพลตฟอร์มไทยบ้างย่อมเป็นเรื่องดี เพื่อให้สร้างประโยชน์กับผู้คน ภาคธุรกิจ ไม่ใช่แค่เอื้อต่อการจัดเก็บภาษีของภาครัฐเท่านั้น
- depa ไพรซ์ซ่า ไวซ์ไซท์ รวมพลังปั้นอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย
ดังนั้น ไพรซ์ซ่า จึงร่วมกับภาครัฐทั้ง depa และไวซ์ไซท์ ปั้น “Etailligence” เพื่อสานภารกิจสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลการชอปปิงคนไทย โดยแพลตฟอร์มสัญชาติไทย ทั้งหา Indight ตลาด วิเคราะห์ข้อมูล พฤติกรรมลูกค้าให้แก่ร้านค้า สามารถมีมาตรฐาน(Benchmark)เทียบเท่าคู่แข่ง รู้ว่าเองเป็นเบอร์ไหนในตลาด ต้องออกอาวุธ ขับเคี่ยวหนักแค่ไหนจึงจะไล่ตามคู่แข่งได้ เพื่อสร้าง “โอกาส” ในการเติบโต เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อมองย้อนกลับมาที่ “เอสเอ็มอี” จะเห็นว่าโจทย์ใหญ่ของการขับเคลื่อนธุรกิจคือ “เงินทุน” บ่นกันมากทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ไม่อยากปล่อยกู้ เพราะมีความเสี่ยงสูงกว่าองค์กรขนาดใหญ่ และการขายสินค้าออนไลน์ ไม่มีหลักทรัพย์จับต้องได้ อย่างอาคาร ที่ดิน ฯ สินทรัพย์ล้วนอยู่ในอากาศ ฯ การมีแพลตฟอร์มดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งในการแก้สารพัด Pain Point ให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเมืองไทย
- ข้อมูลดีมีชัยในสนามการค้าออนไลน์
กล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Etailligence เป็นการร่วมมือกันของ 3 ฝ่าย คือ depa ไพรซ์ซ่า และไวซซ์ไซท์ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ใช้งาน ปัจจุบันนำร่องสินค้ากว่า 1.7 แสนรายการ จากสินค้ากว่า 30 หมวดหมู่ ผู้ขาย 5.4 หมื่นราย ฯ และจะมุ่งสู่ 5 ล้านรายการในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คนไทยขึ้นชื่อแชมป์ขาช้อปออนไลน์ของโลก จากการชิมลาง Etailligence พบสินค้าขายดี เช่น หน้ากากอนามัยขายมากถึง 13.8 ล้านชิ้น และซิมการ์ดโทรศัพท์โกยเงินถึง 338.6 ล้านบาท เป็นต้น
“ข้อมูลช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างบนโลก ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมจะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งข้อมูลที่เราทำในครั้งนี้ ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้า แบรนด์และองค์กรทำงาานได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น”