อพท. รุกปั้น ‘คลองท่อม กระบี่’ ขึ้นแท่น ‘เมืองสุขภาพ’ เทียบชั้นระดับโลก!

อพท. รุกปั้น ‘คลองท่อม กระบี่’ ขึ้นแท่น ‘เมืองสุขภาพ’ เทียบชั้นระดับโลก!

“องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” (อพท.) ได้รับมอบหมายจาก “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการศึกษาศักยภาพและความเหมาะสมของพื้นที่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

เพื่อเตรียมการประกาศให้เป็น พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยืน” ครอบคลุมบริเวณน้ำตกร้อน สระมรกต พิพิธภัณฑ์ลูกปัดคลองท่อม และน้ำพุร้อนเค็ม ภายใต้แนวคิด “คลองท่อมเมืองสุขภาพ หรือ Wellness”

นาวาอากาศเอกอธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. เล่าว่า อ.คลองท่อม มีศักยภาพสูง โดดเด่นทั้งด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่ ต.ห้วยน้ำขาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน (Unseen) มีน้ำพุร้อนเค็มแห่งเดียวของประเทศไทย และเป็น 1 ใน 2 แห่งของทั่วโลก โดยอีกหนึ่งแห่งอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเชค แถบยุโรปตะวันออก

เป้าหมายพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดย  อพท.ทำหน้าที่เป็นองค์กรในการประสานหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่คลองท่อม เพื่อบริหารจัดการพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยทำคู่ขนานกับชุมชน ให้คนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากแหล่งท่องเที่ยวใหม่ นอกเหนือจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพให้กับชุมชนและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาความเจริญให้กับชุมชนและพื้นที่ในระยะยาว ปัจจุบัน อพท. ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อกำหนดเป้าหมายของการทำงานให้ชัดเจน ตั้งแต่เรื่องผังเมือง สิ่งแวดล้อม             การท่องเที่ยว การรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อบูรณาการการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน

สำหรับจุดเด่นของ “น้ำพุร้อนเค็ม” คือ มีแร่ธาตุสูงที่เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ปัจจุบันสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ มีภาคเอกชนเริ่มเห็นประโยชน์และนำน้ำร้อนเค็มขึ้นมาใช้ มีการลงทุนทางธุรกิจไปบ้างแล้ว แต่การลงทุนจากภาครัฐยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งการควบคุมด้านคุณภาพน้ำและปริมาณการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดนำไปสู่การเพิ่มและกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงในมิติของแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

“การประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ จะทำให้ อพท. เข้ามาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อดำเนินการเรื่องการใช้น้ำ การใช้ประโยชน์จากที่ดิน การจัดทำผังเมือง ด้านการลงทุนประสานสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณาจัดทำสิทธิประโยชน์เชิญชวนนักลงทุน หากดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ชุมชนและท้องถิ่นจะได้ประโยชน์จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาคน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เศรษฐกิจท้องถิ่นเกิดการเติบโต”

ภายหลังการศึกษาศักยภาพและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของพื้นที่แล้ว อพท.จะสรุปผลและนำเสนอคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พิจารณาเห็นชอบประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเห็นชอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งกระบวนการในปี 2567

จากนั้นจะไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ อำเภอคลองท่อม ที่จะต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติ BCG Model ที่นำคุณค่าทางทรัพยากรที่มีอยู่ มายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาในพื้นที่ และนำเสนอดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังจากมีการประกาศพื้นที่พิเศษฯ อำเภอคลองท่อมแล้ว อพท. จะใช้องค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ท้องถิ่นและชุมชน ได้แก่ เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย (CBT Thailand) เพื่อยกระดับคลองท่อมเป็น Wellness City” เหมือนกับหลายๆ เมืองของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจะเข้าไปยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก การบริหารจัดการ และเชิญชวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและมีศักยภาพเข้ามาพัฒนาพื้นที่คลองท่อม ให้เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นแหล่งฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ รวมถึงการนำเสนอการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่แห่งนี้ เข้าสู่เวทีในระดับสากลเพื่อสร้างการยอมรับ และรับรู้ของตลาดนักท่องเที่ยว อาทิ การเสนอชื่อเข้ารับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ TOP 100 (Green Destinations Top 100 Stories)

 ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอคลองท่อมมีการตื่นตัว พัฒนาศักยภาพพื้นที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 อพท.ได้นำมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Management Standard : STMS) ไปประเมินโดยมี 2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่  เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้  และองค์การบริหารส่วนตำบลคลองท่อมเหนือ ซึ่งพบว่ามีการบริหารจัดการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และได้รับใบประการมาตรฐาน STMS ในปีงบประมาณ 2565

จากสถิติก่อนปี 2562 จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 4 ล้านคน และในปี 2562 จังหวัดกระบี่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ประมาณ 120,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวรวมกว่า 6 ล้านคน

แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ลดลงตามลำดับจากนโยบายการปิดประเทศ แต่หลังจากปลายปี 2565 ถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย 5 เดือนแรกปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดกระบี่ ประมาณ 1.8 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวในประเทศ 9,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติ 4,000 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นตลาดสำคัญ ได้แก่ กลุ่มยุโรป และกลุ่มอาหรับ ซึ่งกลุ่มนี้ชื่นชอบโปรแกรมเพื่อดูแลสุขภาพ

ดังนั้น หากพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวคลองท่อมให้มีศักยภาพในการรองรับได้ เกิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังในพื้นที่คลองท่อมและสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะ อาทิ เกาะลันตาน้อย เกาะลันตาใหญ่ และอ่าวนาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อให้เกิดวันพักผ่อนที่เพิ่มขึ้น สร้างรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เกิดการกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นมากยิ่งขึ้น