ความสัมพันธ์เกื้อกูลธุรกิจยั่งยืน | พิกุล ศรีมหันต์

“ถนนบ้านเรา เราอยากใช้ อยากเห็นแบบไหน เราก็ต้องทำให้ดีแบบนั้น” คือคติที่ยึดถือเป็นหัวใจหลักจากรุ่นสู่รุ่น กว่า 32 ปี ของ “บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต” จากผู้ผลิตต้นน้ำ สู่ผู้รับเหมาชั้นพิเศษ
ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการบริหาร และรักษาคุณภาพงานได้อย่างดี จนเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เป็นที่น่าจับตามองว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัว จากโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่มีการก่อสร้างต่อเนื่องจากในอดีตมีความคืบหน้า รวมถึงยังมีการประมูล และก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารรุ่นที่ 2 “วรรณา บุรีวงษ์” กรรมการผู้จัดการ เล่าถึงที่มาที่ไปของ“บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต”
เดิมทีกิจการรุ่นคุณพ่อเริ่มจากการขายทราย ภายใต้ชื่อการค้าว่า “บ้านค่ายทรายทอง” จากนั้นต้องการขยายตลาดเพิ่ม จึงมองต่อไปว่า ผู้ใช้ทรายคือใคร ได้คำตอบคือกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนกรีต
ต่อมาจึงได้เริ่มคิดที่จะมีผลิตภัณฑ์คอนกรีตเอง เช่น อิฐบล็อก ตัวหนอน จากนั้นขยายมาทำท่อระบายน้ำ และนี่เป็นที่มาของชื่อบริษัท “บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต” ซึ่งชื่อตรงมาจากที่ตั้งคือ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองนั่นเอง
ไม่หยุดการเติบโตเพียงเท่านี้ เมื่อคิดต่อยอดว่าจะต้องส่งสินค้าเหล่านี้ให้กับผู้รับเหมา ประจวบเหมาะกับจังหวัดระยอง เป็นนิคมอุตสาหกรรม Eastern Seaboard ที่มีการก่อสร้างเยอะ
อีกทั้งเรายังมีจุดแข็งเป็นคนพื้นที่นี้ และยังมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตัวเอง “บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต” จึงเริ่มจดทะเบียนบริษัทผู้รับเหมา จนถึง ณ ปัจจุบันนี้
ยุคแรกเริ่มรับเหมางานระดับเล็ก เช่น ถนนในหมู่บ้าน ตึกแถวต่างๆ จากการเล็งเห็นโอกาสที่จะผันตัวจากผู้รับเหมางานเอกชนไปรับงานภาครัฐ ซึ่งจะต้องพัฒนาคุณสมบัติ ให้มีความพร้อมทุกด้าน เป็นไปตามข้อกำหนด
ได้แก่ จะต้องเคยผ่านงานระดับใหญ่มา มีโรงงานเป็นของตัวเอง และมีใบรับรอง มีปริมาณกำลังการผลิต วิศวกร บุคลากร และเครื่องมืออุปกรณ์จำนวนที่เพียงพอ รวมถึงการได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากทางธนาคาร
ปัจจุบันนี้บ้านค่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษได้ 7 ปีแล้ว นั่นคือสามารถรับงานได้แบบไม่มีข้อจำกัด และสามารถรับงานในโครงการที่มีมูลค่าเกินหนึ่งพันล้านบาทได้
อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็ต้องรักษาคุณภาพ และคอยติดตามข้อกำหนดเพื่อพัฒนาให้ตรงตามเกณฑ์
เมื่อถามถึงความยากง่ายจากการเป็นผู้ขายวัสดุก่อสร้างสู่การเป็นผู้รับเหมา
ความยากง่ายคุณวรรณาได้พูดถึงการบริหารงานและบริหารเงิน ซึ่งงานรับเหมาก่อสร้าง ต้องลงทุนส่วนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่มีราคาค่อนข้างสูง และการทำงานรัฐบาลต้องมีการค้ำประกัน การจ่ายเงินตามงวด
นั่นหมายความว่า บางงานไม่ใช่ว่าจะได้รับเงินเลย หรือ บางโครงการมีการแก้ไขแบบ จะต้องทำให้เสร็จก่อนจึงจะได้รับเงิน นอกจากนี้ฤดูกาลก็เป็นปัจจัยหนึ่งของทุนงานก่อสร้าง อย่างฤดูฝน ทำให้ทำงานยากขึ้น และต้องใช้ทุนมากกว่าเดิม หรือช่วงคาบเกี่ยวงบประมาณที่ทำให้ยังไม่สามารถเบิกเงินได้
ดังนั้น ธนาคารจึงมีส่วนสำคัญกับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้ธุรกิจขยายได้อย่างคล่องตัว สามารถมีวงเงินไปหมุนเวียนธุรกิจต่อไป อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็มีการประชุมเพื่อวางแผนการทำงานและบริหารจัดการส่วนนี้ไม่ให้ติดขัด
นอกจากนี้จะต้องปรับตัวตลอดเวลาในทุกๆสถานการณ์ ทุกภาคส่วนต้องช่วยเหลือกัน แก้ปัญหาไปด้วยกัน อย่างปัจจุบันธนาคารก็ปรับตัวและเข้าใจผู้ประกอบการ สามารถใช้หนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประมูลงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงการบริหารงาน คุณวรรณายอมรับว่ามีความยากอยู่เหมือนกัน เนื่องจากจะต้องมีความรู้เรื่องการคุมงานก่อสร้างกับวิศวกร จึงพัฒนาความสามารถของตัวเองตลอดเวลา โดยมีอีกคติที่ว่า “อยากสูงต้องเขย่งอยากเก่งต้องขยัน”
ยกตัวอย่างการทำงานกับวิศวกร เขาจะคำนึงถึงความแข็งแรง แต่เราสามารถเพิ่มความละเอียดอ่อนของงานก่อสร้างได้ คือนอกจากโครงสร้างแข็งแรง เราก็ทำให้งานให้ออกมาสวยได้อีกด้วย
ความสัมพันธ์เกื้อกูลธุรกิจยั่งยืน
คุณวรรณาเชื่อเรื่องของความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน นอกจากธนาคารที่เป็นส่วนสำคัญ คุณวรรณายังให้ความสำคัญกับ ลูกค้า คู่ค้า ด้วยความจริงใจ อย่างบ้านค่ายฯก็เคยเป็นธุรกิจขนาดเล็กมาก่อน
จะคำนึงถึงใจเขาใจเรา เลือกที่จะไม่รับงานเล็กเลย เพื่อแบ่งปันให้กับผู้รับเหมารายย่อยบ้าง อยู่กันแบบ “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” และสิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนคือคุณวรรณาบริหารด้วยความรักบริษัท ความรักบ้านเกิด ความผูกพันกับผู้ร่วมงานที่เป็นคนท้องถิ่น ที่ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างยั่งยืนแท้จริง