45 ปี ‘ปุ้มปุ้ย’ ปรับกระบวนท่า แตกไลน์น้ำปลาร้า เติมพอร์ตอาหารพร้อมปรุง

นางปวิตา โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ฉายภาพธุรกิจปี 2566 บริษัทเดินหน้าแตกไลน์ผลิตภัณฑ์อาหารสู่หมวดใหม่ๆ มากขึ้น และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี เพื่อหาโอกาสจากน่านน้ำใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโต

กลุ่มแรกคืออาหารพร้อมปรุง มีน้ำแกงไตปลา น้ำยาขนมจีนภาคกลางปลาแมคเคอเรล น้ำแกงส้มใต้ น้ำแกงเขียวหวาน ฯ ได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้างความโดดเด่น ดึงดูดลูกค้า รวมถึงข้าวถาดพร้อมทานทำตลาดในประเทศและส่งออก มีการปรับโฉมสินค้าเบอร์ 1 อย่างหอยลายทอดมาสู่บรรจุภัณฑ์แบบซอง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ และถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์หอยลายทอดให้ทันสมัยมากขึ้น จากเดิมบรรจุในกระป๋อง มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหญ่

“ปุ้มปุ้ยทำตลาดหอยลายทอดมานาน เราถือเป็นสแน็คซีฟู้ดตัวจริง ปีนี้เรามีการปรับแพ็คเกจจิ้ง ทำสินค้าให้ดูวัยรุ่นขึ้น จากเมื่อก่อนเป็นกระป๋อง และเพิ่มรสชาติใหม่เติมพอร์ตสินค้าเป็น 5 รส จากเดิมมี 4 รสชาติ”

นอกจากนี้ ยังแตกไลน์สู่กลุ่มซอสปรุงรสครั้งแรกในรอบ 45 ปี ด้วยการเปิดตัวน้ำปลาร้าปรุงรสภายใต้แบรนด์ปุ้มปุ้ย เนื่องจากมองเห็นโอกาสตลาดน้ำปลาร้าที่มีขนาเใหญ่ระดับหมื่นล้านบาท มีการเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีผู้เล่นจำนวนมากก็ตาม

ในการทำตลาด ได้ดึง “ครูเต้ย อภิวัฒน์” นักร้องหนุ่มหล่อขวัญใจชาวอิสาน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์(Brand Awareness) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะฐานผู้บริโภคชาวอิสานทั่วไทย เนื่องจากครูเต้ยถือเป็นศิลปินนักร้องที่มีผลงานเพลง สร้างยอดวิวหลักร้อยล้าน มีผลงานละครทางสถานีโทรทัศน์ช่องดัง จะมีพลังผลักดันแบรนด์ได้อย่างดี

สำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคในการเลือกปลาร้า คือรสชาติ ราคาจับต้องได้ และสินค้ามีคุณภาพ ซึ่งปุ้มปุ้ยในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ และอยู่ในวงการอาหาร มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมาย ส่วนการจำหน่ายประเดิมช่องทางออนไลน์ หากเฟสแรกผลตอบรับดี จะขยายสู่ช่องทางห้างค้าปลีกต่อไป

“เป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปีที่เราแตกไลน์จากอาหาร ปลากระป๋องที่พอร์ตหลักคือปลาปรุงรส ปลาในซอสมะเขือเทศ ไปสู่ตลาดซอส และยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารรายใหญ่จาก 20-30 ราย ที่ลงมาเล่นในตลาดน้ำปลาร้าด้วย รวมถึงการเติมอาหารพร้อมทาน อาหารพร้อมปรุง ที่เรากระโดดมาในตลาดนี้เพราะมีขนาดใหญ่มากหลายหมื่นล้านบาท และเทรนด์การเติบโตในต่างประเทศอยู่ที่ 7.1% ทุกปี ส่วนไทยเติบโต 7.5% เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนมาทานอาหารพร้อมทานมากขึ้น”

ภาพรวมปี 2566 บริษัทต้องการสร้างยอดขายเติบโต 10% จากปีก่อนอดขายกว่า 1,400 ล้านบาท โดยการขายในประเทศสัดส่วน 80% และส่งออกราว 20% ปีนี้คาดการณ์มีลูกค้าใหม่เพิ่ม 1-2 ราย

"ที่ผ่านมาปลากระป๋องถูกมองเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ แต่ปลากระป๋องไม่ใช่อาหารกันตาย และปุ้มปุ้ยปรับตัวเจาะคนรุ่นใหม่มากขึ้น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารให้ทานคู่กับอะไรก็ได้ เช่น หายลายทอดเป็นท็อปปิ้งเมนูต่างๆ"