"ไฟไหม้"โรงงานผลิตที่นอน บางปู พนักงานหนีตายจ้าละหวั่น เผาวอด 2 โกดัง

ความคืบหน้า "ไฟไหม้" โรงงานผลิตที่นอน ย่านบางปู สมุทรปราการ พนักงานหนีตายจ้าละหวั่น เผาวอด 2 โกดัง ที่ใช้เก็บวัสดุและอุปกรณ์ผลิตที่นอน

เมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตที่นอน ภายซอยทีเจซี ตำบลบางปู ใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และรถน้ำในพื้นที่ใกล้เคียง

ที่เกิดเหตุ พบโกดังของโรงงานผลิตที่นอน กำลังถูกเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง โดยขณะเกิดเหตุพนักงานต้องช่วยกันขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาจากในตัวโรงงาน ซึ่งเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทำให้มีแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำ พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลบางปู ดับเพลิงเทศบาลใกล้เคียง และ อาสาบรรเทาสาธารณะภัย จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม สำหรับโกดังที่ถูกไฟไหม้ในครั้งนี้ เป็นโกดังโรงงานชั้นเดียว ตั้งอยู่บนพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ โดยการดับเพลิงก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมีลมกรรโชกแรง ประกอบกับภายในโรงงานมีวัสดุทำที่นอน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเป็นจำนวนมาก โดยขณะเกิดเหตุพนักงานได้วิ่งหนีตาย ออกมาจากโรงงานกันอย่างโกลาหน โดยมีคนงานบางส่วนได้เข้าไปช่วยกันขนย้ายวัสดุผลิตที่นอนออกมาจากโกดัง ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำล้อมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด โดยสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

จากการสอบถามคนงาน ทราบว่า พบเห็นแสงเพลิงลุกไหม้ จากภายในโรงงาน จากนั้นไฟได้ลุกลามไปติดที่ก้อนฟองน้ำ ที่เตรียมไว้สำหรับผลิตที่นอน ซึ่งเปํนเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกลามและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว พนักงานหลายสิบคน พยามช่วยกันดับไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งมีรถดับเพลิงที่ได้รับแจ้งเหตุ วิ่งเข้ามาภายในโรงงาน และช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิง จนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ในวงจำกัด ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่า เกิดจากอะไร แต่ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานทำงานกันตามปกติ

เบื้องต้นโกดังโรงงานดังกล่าว ปลุกติดกันสองหลัง โดยเพลิงได้ลุกไหม้เสียหายทั้งสองโกดัง ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00. น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ป้องกันภัย สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว โดยยังคงมีแสงเพลิงหลงเหลือบางจุด คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมง เพลิงจึงจะสงบ ส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหายนั้น ขณะนี้ต้องรอผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอีกครั้ง