ททท. รุกแผนตลาดคุณภาพ 'ทัวริสต์จีน' ขยายฐานกลุ่มเดินทางเที่ยวเอง

ททท. รุกแผนตลาดคุณภาพ 'ทัวริสต์จีน'  ขยายฐานกลุ่มเดินทางเที่ยวเอง

"ททท." จับมือแพลต์ฟอร์มบริการท่องเที่ยวออนไลน์ รุกดึงตลาดท่องเที่ยวคุณภาพ ขยายฐานกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง "ทริปดอทคอมกรุ๊ป" ยักษ์ออนไลน์เบอร์ 1 จีน มั่นใจระยะยาวเทรนด์เปลี่ยน "จีน" เที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น หนุนลบ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" หายจากตลาด

ภาคท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ท่ามกลางสารพัดปัจจัยลบ เศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อ ความขัดแย้งระหว่างประเทศนำไปสู่โลกแบ่งขั้ว หลังยุคทองปี 2562 ก่อนวิกฤติโควิดระบาดสะเทือนโลกครั้งใหญ่ ไทยสร้างรายได้รวมทางการท่องเที่ยวจากตลาดในและต่างประเทศเกือบ 3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 17.7% ของจีดีพีประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 40 ล้านคน สูงอันดับ 5 และทำรายได้อันดับ 4 ของโลก

ในขณะที่การท่องเที่ยวไทยที่เคยมีนักนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 40 ล้านคน ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังเป็นคำถามว่าปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. มุ่งสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มของบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agents : OTA) เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT

ทั้งนี้ ล่าสุด ททท.ได้ร่วมกับ OTA แห่งภูมิภาคเอเชีย 4 ราย ได้แก่ Agoda, Ant Group (Alipay), Klook Travel Technology และ Global KKDay จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเข้ามาเที่ยวไทย คาดสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวร่วม 1,000 ล้านบาท จากยอดขายเกือบ 7 แสนแพ็กเกจ

“ครึ่งปีหลังนี้ ททท.จะเดินหน้าทำตลาดจีน ร่วมมือกับ OTA ต่อเนื่องเพื่อดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ หวังลดสัดส่วนตลาดด้อยคุณภาพ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าโครงสร้างนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยแบบกรุ๊ปทัวร์ ยังมีอยู่ ตัดขาดกันไม่ได้ ต้องผสมผสานกัน"

โดย ททท.จะเลือกทำการตลาดกับบริษัททัวร์ที่ทางการจีนและทางการไทยการันตี ขณะที่ปีนี้ ททท.ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) มากขึ้นเป็น 60% กรุ๊ปทัวร์จะมีสัดส่วน 40% ของเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 5 ล้านคนในปีนี้

 

“ทริปดอทคอมกรุ๊ป”ชี้ต้องจับตาระยะยาว

นางสาวซุน เทียนซู รองประธานกรรมการ ทริปดอทคอมกรุ๊ป บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์อันดับ 1 ของจีน กล่าวว่า ระยะสั้นนี้จะยังไม่เห็นทัวร์ศูนย์เหรียญกลับมาแน่นอน เพราะภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังฟื้นตัวกลับมาไม่มาก โดยไม่สามารถลดต้นทุนให้เกิดทัวร์ศูนย์เหรียญได้ เนื่องจากหลักการทำทัวร์ศูนย์เหรียญต้องอาศัยคนเดินทางจำนวนมาก เช่น การเหมาเที่ยวบินเพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด

“แต่ในระยะยาวต้องช่วยกันจับตาดู แต่ทริปดอทคอมกรุ๊ปมองว่าเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนยุคหลังโควิดเปลี่ยนไป นิยมซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น ชอบเที่ยวตามความชอบส่วนตัวมากขึ้น น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทัวร์ศูนย์เหรียญหายไป”

 

ชงรัฐบาลใหม่ขยายวันพัก “ฟรีวีซ่า-VOA”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.เปิดเผยว่า ททท.เตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาต่ออายุมาตรการขยายระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักรสำหรับชาวต่างชาติบางจำพวกที่เดินทางเข้าประเทศไทย ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566 เพื่อกระตุ้นและสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง หลังจากมาตรการดังกล่าวซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ได้สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2566 โดยมีรายละเอียดมาตรการดังกล่าว ดังนี้ 

1.ชาวต่างชาติที่ขอรับการตรวจลงตรา Visa on Arrival (VOA) หรือ วีซ่าหน้าด่าน ขยายระยะเวลาจากเดิมพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน 

2.ชาวต่างชาติผู้ถือหนังสือเดินทางของประเทศที่รัฐบาลของประเทศนั้นได้ทำความตกลงระหว่างกันกับรัฐบาลไทย กรณีการยกเว้นการตรวจลงตรา ขยายจากเดิมไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน 

3.ชาวต่างชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวซึ่งได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.30 ซึ่งเป็นมาตรการที่ไทยให้ฝ่ายเดียว ขยายจากเดิมไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน

 

ยันไม่กระทบจิตวิทยาเดินทาง “ชาวจีน”

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า หลังเกิดคดีร่วมกันอุ้มฆ่านักศึกษาชาวจีน นำไปสู่ประเด็นเข้มงวดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาไทยโดยใช้วีซ่าหน้าด่าน (VOA) มากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนชาวจีนมาขอ VOA ที่สนามบินปลายทางประมาณ 50% ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นการยื่นขอวีซ่ามาจากต้นทาง ทาง ททท.เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็สามารถเคลียร์ได้เร็ว นับเป็นอีกหนึ่งบทเรียนเหมือนกัน อย่างไรก็ตามประเมินว่าไม่มีผลกระทบในเชิงจิตวิทยาหรือนำไปสู่การยกเลิกการจองทริปมาท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวจีน

 “การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในตอนนี้ ท่าทีของ ททท.ที่ดีที่สุดคือการสะท้อนความคิดเห็นไปยังหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อนำไปสู่คุณภาพและความปลอดภัยมากขึ้น”