เปิดเหตุผล'ซิซซ์เล่อร์'รีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 30 ปี พร้อมกลับมาโฟกัสสเต็ก
ส่องตลาดร้านอาหารบริการด่วนกลุ่มสเต็กระอุ! 'ซิซซ์เล่อร์' ประกาศพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี กลับมามุ่งตลาดสเต็ก ขยายตลาดเดลิเวอรี ส่งโปร 2 แถม 2 รับสงกรานต์ครั้งแรก
เจาะตลาดร้านอาหารบริการด่วน หรือ ตลาดคิวเอสอาร์ QSR (QSR: Quick Service Restaurant) ปี 2566 คึกคัก แบรนด์ชั้นนำต่างพาเหรดเปิดตัวเมนูอาหารและส่งแคมเปญรุกตลาด รวมถึง 'ซิซซ์เล่อร์' ที่อยู่ในตลาดมา 30 ปีเตรียมแผนรุกตลาดครั้งสำคัญในปีนี้เช่นกัน
นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ในเครือ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากการประเมินภาพรวมตลาดพรีเมี่ยมสเต็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตที่ดีประมาณ 5-7% แตกต่างจากกลุ่มในสหรัฐ และยุโรป ที่ตลาดพรีเมี่ยมสเต็กจะชะลอตัวลง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในเอเชียและไทยต่างต้องการ สเต็กที่มีคุณภาพสูงขึ้น
จากแนวโน้มตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปและจากสถานการณ์โควิดที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้า ทำให้ในปี 2566 บริษัทวางแผนที่จะรีแบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ ครั้งใหญ่ โดยการมุ่งนำเสนอภาพลักษณ์ของ ซิซซ์เล่อร์ ที่เป็น สเต็กมาสเตอร์ตัวจริง และอยากกลับไปคนเดิมที่ลูกค้ารักตลอด ทั้งหมดเพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะร้าน สเต๊กและสลัดบาร์อันดับหนึ่งที่ลูกค้าชาวไทยและต่างชาตินึกถึงตลอด 30 ปี
แผนรุกตลาดร้านอาหาร ของซิซซ์เล่อร์ในปีนี้ ได้ใช้แนวคิด “OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCES” โดยดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์ ทั้งการส่งมอบความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) พร้อมปรับเล่มเมนูใหม่ของร้าน ให้ความน่าสนใจในการรับประทานมากขึ้น รวมไปถึงการออกแบบการจัดวางที่โมเดิร์นขึ้น การปรับรูปแบบของอาหารให้มีความน่าสนใจ
พร้อมนำเสนอจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของซิซซ์เล่อร์ คือ เมนูสเต๊กที่เพิ่มความหลากหลายผ่านเมนูใหม่ ๆ ที่มีความพรีเมียม แต่กำหนดราคาเท่าเดิม เช่น สเต๊กริบอายจานร้อน พร้อมหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่น (Sizzling Ribeye Steak) ที่เสิร์ฟบนหินร้อน ได้ยินเสียงเนื้อที่กำลังสุกกลายเป็นกิมมิกแบบใหม่ ขยายกลุ่มลูกค้าเจน Z ที่ชอบการสร้างคอนเทนต์ผ่านออนไลน์ รวมถึงยังมีเมนูใหม่ทั้ง สเต๊กเนื้อนิวยอร์กสตริปลอยน์จานร้อน พร้อมหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่น (Sizzling New York Striploin Steak)
สเต๊กปลาแซลมอนซูวีสไตล์นอร์ดิก (Sous Vide Salmon Steak Nordic Style) ซิซซ์เล่อร์ ซิกเนเจอร์คัต ซี่โครงหมูบาร์บีคิว (Sizzler Signature Cut BBQ Pork Ribs) และ สเต๊กปลากะพงย่างซอสซีฟู้ดมาโย (Sea Bass Steak with Seafood Mayo Sauce)
รวมถึงได้ขยายเมนูเครื่องดื่มให้มีความหลากหลาย รวมถึงการนำเสนอ สลัดบาร์ที่มีวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ส่งตรงมาจากโครงการหลวงและวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากทั่วโลก รวมถึงการมีเมนูซิกเนเจอร์ ซิซซ์เล่อร์ ชีสโทสต์ พร้อมการให้บริการแก่ลูกค้าเหมือนกับการเข้าใช้บริการโรงแรม 5 ดาว
ขณะเดียวกันได้มุ่งขยายตลาดผ่านบริการ เดลิเวอรี จากในช่วงโควิด ซิซซ์เล่อร์ ไม่เคยมีบริการนี้มาก่อน โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้เตรียมจัดโปรโมชั่นซื้อ 2 แถม 2 เพื่อร่วมสร้างการรับรู้ในบริการเดลิเวอรีของซิซซ์เล่อร์ไปยังกลุ่มลูกค้า
“ภาพรวมซิซซ์เล่อร์ในทั่วโลก มีสาขาของไทย 63 สาขา กลายเป็นสาขาที่มากสุดของซิซซ์เล่อร์ในทั่วโลก ซึ่งสาเหตุที่สาขาไทยมีมากสุด เนื่องจาก ซิซซ์เล่อร์ อยู่ตรงกลางระหว่างสลัดบาร์และสเต็ก ส่วนในตลาดอื่นจะมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะตลาดในประเทศสหรัฐ และมีแบรนด์จำนวนมาก”
แผนการเปิดสาขาใหม่ในปี 2566 จะเปิดเพิ่ม 4 สาขา จากปัจจุบันมี 63 สาขา เป็นสาขาใน กทม.และปริมณฑล ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือ 30% อยู่ในต่างจังหวัด โดยสาขาใหม่ที่จะเปิดได้แก่ เซ็นทรัลรามอินทรา ได้เปิดให้บริการแล้วในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สาขาพาร์ค สีลม เตรียมเปิดในเดือน ก.ค.นี้ ส่วนไตรมาสที่ 4 จะเปิดจำนวน 2 สาขา เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ ประเมินว่า จากแผนการตลาดที่วางไว้ จะทำให้ในสิ้นปี 2566 กลับมาสร้างการเติบโตแบบสองหลัก ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจมีการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง และลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการในร้านตามปกติ ส่วนยอดการใช้จ่ายต่อบิล จะอยู่ประมาณ 800 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ประมาณ 700 บาทต่อบิล ขณะที่ยอดการใช้จ่ายต่อคนจะอยู่ที่ 350 บาท จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 320 บาท
