เจาะ 2 ธุรกิจ Health Care หลังโควิด เมื่อทั่วโลกหันมาโฟกัสสุขภาพมากขึ้น

"ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ" คำนี้เริ่มกลับมาเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง ภายหลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด แม้หลายธุรกิจต้องพบกับโจทย์ใหญ่ครั้งสำคัญ แต่ในวิกฤตินี้ยังมีอีกหนึ่งประเภทธุรกิจที่ยังสามารถโบยบินได้ นั่นคือ ธุรกิจ Health Care 

โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่สำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์ "สร้างสรรค์คุณค่าแห่งชีวิต" ในวันนี้พร้อมก้าวลงสู่สนามธุรกิจโรงพยาบาลอย่างเต็มตัวแล้ว ภายใต้การบริหารของ "นายแพทย์วริศ วิมลเฉลา" Vice President ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2

"โรงพยาบาลศรีสวรรค์ เน้นคุณภาพการรักษาเป็นสำคัญ แม้ปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันมากขึ้น คู่แข่งพัฒนาอย่างรวดเร็ว ลูกค้ามีความต้องการเฉพาะตัวมากขึ้น เทคโนโลยีต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องปรับตัวตาม ซึ่งผมมองเป็นโอกาสของเราในการพัฒนาโรงพยาบาลให้มีความทันสมัย รองรับคนไข้ได้ดีขึ้น อีกทั้งปัจจุบัน เราเคยชินกับการใช้สมาร์ทโฟน คนไข้ของเราก็เช่นกัน การลงทุนกับระบบ Hospital Information System (HIS) ถือว่ามาถูกทางและคุ้มค่า เพื่อทำให้การเชื่อมโยงทุกอย่างกับระบบของเรา ไร้รอยต่อ สะดวก รวดเร็วมากที่สุด ตรงนี้จะทำให้ตอบสนองและบริการคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น" นพ.วริศ กล่าว 

อีกหนึ่งธุรกิจที่ควบคู่โรงพยาบาล นั่นคือ ร้านขายยา โดยเฉพาะในยามที่เกิดโรคระบาด การเข้าถึงยาที่มีคุณภาพและราคาเป็นธรรม จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เมืองทองเภสัช คือหนึ่งในผู้ค้าส่งเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอุบลราชธานี ภายใต้การดูแลของ "ไทยคม ทัศนารักษ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์เต้ จำกัด และบริษัท เมืองทองเภสัช จำกัด ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3

"เกือบ 60 ปีที่เราอยู่คู่กับเมืองอุบลฯ และเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีโมเดลธุรกิจแบบค้าส่งเกี่ยวกับยา เสมือนเป็นศูนย์กลางที่เปิดให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้เดินเลือกซื้อยาด้วยตนเอง เพราะฉะนั้น กลุ่มเป้าหมายของเราจึงเป็นคุณหมอ พยาบาล หรือเภสัชกรที่มีความรู้เกี่ยวกับยาที่ต้องการซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับผู้ใช้ยาทั่วไป แต่ในขณะเดียวกัน ร้านเราก็มีเภสัชกรคอยให้คำแนะนำกับลูกค้าทั่วไปด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นโจทย์หลายๆ อย่างที่เราต้องปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งเรื่องคนและระบบเทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตให้มากขึ้น" ไทยคม กล่าว

การยอมรับการเปลี่ยนแปลง คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้สามารถก้าวต่อไปได้อย่างเติบโตมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ทุกการเติบโตย่อมต้องการพาร์ทเนอร์ที่คอยสนับสนุน ให้คำแนะนำ โดยเฉพาะในด้านการเงิน

นพ.วริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ถนนราชพฤกษ์ ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ เพราะต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก โชคดีมีพาร์ทเนอร์ที่ดีเคียงข้าง เรียกว่าอยู่ข้างบ้านมาตลอด ดังนั้น การขยับขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น เราก็ได้คำปรึกษาจากพี่ๆ กรุงไทย โดยเฉพาะระบบ Cash Management ที่ช่วยให้การบริหารจัดการเงินของโรงพยาบาลเป็นได้อย่างราบรื่นและเป็นระบบมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ทำบัตรพนักงานให้เป็นบัตรเดบิตในใบเดียวกัน และยิ่งตอนนี้มีแอปพลิเคชัน Krungthai BUSINESS ทุกอย่างคือ สะดวก รวดเร็ว ทั้งโอน รับ จ่าย หรือทำ e-Withholding Tax ช่วยลดระยะเวลาลงไปมาก

ไทยคม กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า จริงๆ ใช้กรุงไทยมานานแล้ว แต่เริ่มคุยกันมากขึ้นช่วงโครงการภาครัฐ วันนี้เรามีทั้งสินเชื่อคู่ค้าพารวย ช่วยให้มั่นใจคู่ค้า และคู่ค้ามั่นใจเรา อีกทั้งยังช่วยให้การจ่ายหรือชำระค่าสินค้าให้แก่บริษัทผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์และบริษัทยา สะดวก รวดเร็วขึ้น และลดข้อผิดพลาดต่างๆ ให้น้อยลง

"เมื่อก่อนเป็นเช็ค ค่อนข้างกังวล พอมี Krungthai BUSINESS เข้ามา ทำให้การทำธุรกรรมการเงินง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปแบงก์ ที่สำคัญคือ ตรวจสอบได้ ธุรกรรมมีอะไรบ้าง ทำให้เราได้ความคล่องตัว ความมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป และมีเวลามากขึ้นในการบริหารธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจให้ไปได้ไกลขึ้นเหมือนติดปีก" ไทยคม กล่าวทิ้งท้าย

Krungthai BUSINESS นอกจากจะเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการเรื่องการเงิน ทั้งโอน รับ จ่ายได้ง่ายสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทุกเวลาแล้ว ยังสามารถดูข้อมูลสินเชื่อ ขอหนังสือค้ำประกันได้ทั้ง LG และ e-LG รวมถึงการทำธุรกรรมต่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Corporate Contact Center โทร. 02-111-9999 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก