Know-how ศิลปะปั้นความสำเร็จเฉพาะตัวสำหรับธุรกิจ | พิกุล ศรีมหันต์

หากได้มีโอกาสกลับมาทบทวนเส้นทางการทำธุรกิจ เราคงพบว่ามีตัวแปรหลายอย่างมากมาย รวมถึงช่วงจังหวะเวลาของการทำธุรกิจด้วยที่เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในช่วงเวลานั้นๆ 

สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ ตลอดเส้นทางของการทำธุรกิจที่สร้างประสบการณ์จากเรื่องราวที่ต้องประสบพบเจอ กลายเป็นสิ่งมีค่าที่ได้มาเฉพาะตัว ให้เราสามารถนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจได้อีก

หากพูดถึงนวัตกรรมผ้านาโน ที่ช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ทุกคนคงรู้จักกันดีโดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก 

คุณหมู เบญจวรรณ รุ่งเจริญชัย กรรมการบริษัท BCL 2002 จำกัด ผู้นำด้านสิ่งทอในประเทศไทยมีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับ Know-How ที่ได้รับจากการรับช่วงต่อธุรกิจสิ่งทอของครอบครัว

จนมีโอกาสได้ใช้ประสบการณ์ที่ได้รับมาต่อยอดธุรกิจเครื่องเขียนภายใต้แบรนด์ KIAN-DA ที่ตนเองรักจนเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา

เนื่องด้วยธุรกิจสิ่งทอที่บ้านนั้นอยู่มายาวนานหลายสิบปี และเป็นธุรกิจนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ทำให้คุณหมูได้มีโอกาสติดต่อค้าขายกับบริษัทต่างๆ และทราบถึงวิธีการทำงานกับคู่ค้าที่ต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

จนวันหนึ่งได้ตั้งคำถามกับปากกาที่ตนเองกำลังใช้เขียนงานว่า “ทำไมปากกาคุณภาพดีๆ ที่ใช้อยู่นั้นมีราคาสูงกว่าในท้องตลาด” 

จึงลองให้ทีมงานที่หน้าที่ sourcing อยู่นั้นสอบถามไปทางคู่ค้าในประเทศจีน และพบว่ามีโอกาสในการเสาะหาและผลิตออกมาได้ราคาที่ถูกกว่ามากด้วยคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน

ประกอบกับคู่ค้าที่ต่างประเทศเองก็มีนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับเครื่องเขียนอีกด้วย จึงได้เริ่มเจรจากับทาง 7-Eleven ด้วยการโทรศัพท์ผ่านศูนย์บริการและติดต่อไปยัง Buyer

เพื่อนำเสนอตัวอย่างสินค้าที่มีอยู่ในเวลานั้น และมีโอกาสจำหน่ายเครื่องเขียนดังกล่าวผ่านหน้าร้าน 7-Eleven กว่าหนึ่งหมื่นสาขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

แต่ตลอดการทำธุรกิจผ่านช่องทางจัดจำหน่ายดังกล่าวก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เพราะการแข่งขันของจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในร้าน

แน่นอนว่าสินค้าที่ขายไม่ดี จะถูกนำออกจากจุดวางจำหน่ายสินค้าตามกลไกและโมเดลทางการขาย 

คุณหมูจึงได้คิดวาง Positioning ของสินค้าโดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อว่า หากเป็นสินค้าที่มีดีไซน์ใช้ได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง วัยทำงานหรือวัยเรียนก็ทำให้ขายได้มากขึ้น

และรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีการรับรู้ที่ดีกับความเป็นญี่ปุ่น ก็กลายเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ KIAN-DA ที่ออกแบบให้มีการอ่านออกเสียงคล้ายกับภาษาญี่ปุ่น 

ส่วนตัวสินค้าก็มีความเรียบง่ายแต่ดูดี ด้วยราคาอยู่บน Shelf ที่สามารถซื้อได้ง่าย แต่ด้วยการขายเป็นแพ็กในร้าน ไม่สามารถให้ลูกค้าได้ลองเขียนปากกาก่อนซื้อได้

ทางแบรนด์จึงมีช่องทาง Social Media ไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ติดต่อ รวมถึงการ Feedback และร้องเรียนหรือจัดส่งสินค้าใหม่ให้กับลูกค้า 

ในส่วนของการเสาะหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึง segmentation ต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งการติดต่อการขอลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนต่างๆ เพื่อนำมาใช้เป็นดีไซน์บนเครื่องเขียน จำเป็นต้องรู้ถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ ของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ต้องการ รวมถึงการเพิ่ม SKU

ทางคุณหมูเองนั้นก็จำเป็นต้องมีการหาคู่ค้าใหม่ๆ จากที่มีอยู่ด้วยเช่นกัน โดยมี Trick ง่ายๆ ที่ใช้ในการติดต่องานกับคู่ค้าเจ้าใหม่ๆ อยู่ 3 อย่างคือ 

1.คู่ค้าที่มาออกตามงานจัดแสดงสินค้าใหญ่ๆ มักจะผ่านการคัดเลือกและถูกคัดสรรมาแล้ว ดังนั้น งานจัดแสดงสินค้าอย่าง กวางโจวแฟร์ หรือแคนตัน แฟร์ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการพบเจอคู่ค้าที่มีคุณภาพ

เพราะด้วยธรรมชาติของการหาคู่ค่าทางธุรกิจแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วนั้นทุกบริษัทต้องการคู่ค้าที่สามารถติดต่อทำธุรกิจได้ด้วยในระยะยาว 

ดังนั้น สิ่งที่กลายเป็นคุณค่าเพิ่มคือ คู่ค้ามักจะมีสินค้าใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามานำเสนอตลอด ส่งผลดีโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้ทางคุณหมูยังคงมีสินค้าใหม่ๆ นำเสนอ Buyer และพัฒนาแต่ละ SKU อีกด้วย 

2.สิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ด้วยคือ Audit Report ดังนั้น การขอดู Audit Report ของบริษัทที่มีไว้อ้างอิง จะช่วยให้เราสามารถทำธุรกิจได้อย่างสบายใจมากขึ้น

เพราะแสดงออกถึงความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส รวมถึงการมีตัวตนในการทำธุรกิจ 

3.ตัวแทนบริษัทที่พูดคุยกับเรา หากสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้อย่างแม่นยำตั้งแต่แรก เพื่อแสดงให้เราเข้าใจ และไว้วางใจได้มากขึ้น ก็เป็นสัญญาณที่ดี และพร้อมที่จะเริ่มติดต่อทำธุรกิจด้วย

 เพราะแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญที่มีและการทำงานที่ราบรื่น ทั้งนี้การติดต่อซื้อขายแต่ละครั้ง จำเป็นต้องทราบข้อมูลตลาดเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสอบถามและต่อรองกับคู่ค้าด้วยเช่นกัน

สำหรับเคล็ดลับการอยู่บน Shelf ในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven มากว่า 10 ปีพร้อมด้วยรางวัลต่างๆ นั้น คุณหมูแชร์ให้ฟังว่าเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และยอดขายที่ดีให้กับทั้งตัวเองและ 7-Eleven

ด้วยการเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นของ Buyer เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางสินค้า

ซึ่งวิธีการต่างๆ ที่นำมาใช้นั้นก็เป็นสิ่งที่ได้รับการหล่อหลอมจากตลอดเวลาในการทำธุรกิจมานั่นเอง

Know-how ในการทำธุรกิจจึงเหมือนการตกผลึกของจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจ ที่มีทั้งเรื่องศาสตร์และศิลป์เฉพาะตัวในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับนักธุรกิจท่านไหนที่กำลังปั้นธุรกิจในรูปแบบของตนเองอยู่ ก็สามารถลองหยิบ Know-How ของตนเองและธุรกิจที่ใกล้เคียงมาทดลองใช้ในเรื่องต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้เช่นกัน.