“ChatGPT” ลามเวียดนาม ตั้งแต่ ‘วินกรุ๊ป’ ยัน ‘สตาร์ทอัพ AI’

ความตื่นเต้นของกระแสนี้  ทำให้อุตสาหกรรมในครัวเรือน พากันขายบัญชี ที่ตั้งใจให้ใช้งานฟรี ในขณะที่บริษัทรายใหญ่สุดบางแห่ง กำลังมองหาความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีที่สามารถเขียนอีเมล บทความ โค้ด หรือแม่กระทั่งข่าว ตามความต้องการของผู้ใช้งาน

หลายกลุ่มในเฟซบุ๊กทุ่มเทให้กับแพลตฟอร์มของโอเพนเอไอที่ผุดขึ้นในเวียดนาม โดยกลุ่มหนึ่งมีสมาชิกประมาณ 79,000 คน และเวียดนามไม่ใช่ประเทศเดียวในเอเชียที่พยายามเข้าถึง ChatGPT บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนหลายแห่งก็กำลังคิดค้นแชตบอตเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับ"โกตัม อดานี มหาเศรษฐีอินเดียที่กำลังมีปัญหาเรื่องหุ้นเมื่อเร็วๆนี้ ยังบอกว่า เขาติดใจอะไรบางอย่างในตัวแชตบอตด้วยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเป็นผู้ใช้แชตบอตในอนาคตในเวียดนาม พยายามหาหนทางหลายวิธีเพื่อเข้าถึงบริการแชตบอต เพราะเวียดนามเป็น 1 ใน 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ “โอเพนเอไอ” นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของสหรัฐ ยังไม่เปิด ChatGPT ให้บริการ ซึ่งหมายความว่า การเข้าถึงบริการแชตบอตในเวียดนาม ต้องเข้าผ่านเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ วีพีเอ็น (VPN)

“ซอนนี แดง” ผู้ดูแลกลุ่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ ChatGPT กลุ่มหนึ่ง บอกว่า ชาวเวียดนามต่างมาขอความช่วยเหลือในกลุ่ม เพื่อสร้างบัญชี ChatGPT วันละหลายร้อยคน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ต้องใช้วีพีเอ็น แดง ไม่ขายบริการสมัครชิกใด ๆ แต่สมาชิกคนอื่น ๆ คิดค่าบริการสมัครสมาชิก ChatGPT ที่อัตรา 1-4 ดอลลาร์

แดง คาดว่า ตอนนี้มีชาวเวียดนามประมาณ 1% จากประชากรทั้งหมด 100 ล้านคน ใช้ ChatGPT เพราะความสามารถของแชตบอต ช่วยประหยัดเวลา, สะดวกในการใช้งาน และทำให้ทันตามกระแส

“ผมสงสัยว่า ทำไมมีการใช้งานแชตบอตนี้อย่างแพร่หลายเหมือนไวรัส แม้แชตบอตให้ข้อมูลผิดพลาดและให้คำตอบตลกๆ” แดง กล่าว โดยเขาหมายถึงเทคโนโลยีซึ่งรู้จัดกันดีว่า มีการตอบคำถามอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป๊ะๆเสมอไป เช่นถามเรื่องดอสโตเยฟสกีเป็นภาษาเวียดนามหรือที่ง่ายหน่อยก็เรื่องดาวหาง คำตอบที่ได้อาจผิดพลาดไปบ้าง

 แต่ถึงอย่างนั้น แชตบอตนี้ก็กลายเป็นแหล่งประมวณข่าวสารทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีการค้นหาเรื่องราวต่างๆ10เรื่อง มีเรื่องราวเกี่ยวกับ ChatGPT 9 เรื่องด้วยกัน

และ1 ใน 9 เรื่องที่สะท้อนถึงความผิดพลาดคือเรื่องที่บอกว่า “ChatGPT เป็นที่นิยมมากในประเทศเวียดนามช่วงสองสามปีมานี้” แต่ข้อเท็จจริงคือ ChatGPT เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง

ความผิดพลาดดังกล่าว สะท้อนถึงขัดจำกัดของเทคโนโลยี อัลกอริทึมของแชตบอตมีความคลุมเครือ แม้ผลลัพธ์มักมีความน่าเชื่อถือแต่ยังมีความผิดพลาดอยู่ เนื่องจากคำตอบมาจากรูปแบบของคำพูด มากกว่าข้อเท็จจริงในโลกแห่งความเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น บทความข่าวสารเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยี มักมีวลี “เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา” แชตบอตจึงตอบคำถามนิกเคอิแบบนั้น

แต่บางครั้งคำตอบมีความถูกต้อง เช่น “หลายบริษัทในเวียดนามกำลังใช้แชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วย ChatGPT ให้ทำหน้าที่ดูแลลูกค้า ขณะที่นักวิจัยกำลังใช้งานแชตบอตเพื่อประมวลผลด้านภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ”

มหาวิทยาลัยวินแห่งใหม่ของ "วินกรุ๊ป" บริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ที่ลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์, อพาร์ตเมนต์และสถานศึกษา กำลังประเมินว่าจะสมัคร ChatGPT เพื่อใช้ในชั้นเรียนหรือการวิจัยอย่างไร

แดง ผู้ประกอบการที่ลงทุนหลายด้านและหนึ่งในนั้นคือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเลิฟอินบอต (LovinBot) แพลตฟอร์มช่วยเขียนภาษาเวียดนาม กำลังปรับปรุงแพลตฟอร์มด้วย ChatGP

Bkav บริษัทบริการความปลอดภัยไซเบอร์และแม็กซ์แลนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีแชตบอตเพื่อนำมาใช้กับสื่อโทรทัศน์ในประเทศ

วีเอ็นจี บริษัทเกมมิงยูนิคอร์น, เอฟพีที บริษัทซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่ และองค์กรอื่น ๆ ต่างลงทุนด้านแชตบอตมากกว่าปกติสองสามเท่า 

ยิ่งไปกว่านั้น ศูนย์วิจัยมูลค่า 220 ล้านดอลลาร์แห่งใหม่ของซัมซุงในกรุงฮานอย ก็กำลังให้ความสำคัญกับแชตบอตเช่นกัน

“ก๊ก เซ่งกิง” ผู้จัดการโครงการนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยอาร์เอ็มไอที ให้สัมภาษณ์นิกเคอิ เอเชียว่า “บริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ทั้งหมดในเวียดนามล้วนมีการพัฒนาเทคโนโลยีเอไอ ประชากรวัยหนุ่มสาวในประเทศเปิดรับเทคโนโลยี โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์อิสระที่เข้าถึงประเทศกำลังพัฒนาได้ง่ายมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ให้ความรู้สึกราวกับว่า ChatGPT คือโอกาสของการพัฒนาด้านทักษะและความรู้พื้นฐานภายในเวียดนาม”

แต่แดงพบว่าแชตบอตไม่ได้ใช้ภาษาเวียดนามได้ดีเท่าภาษาอังกฤษ โดยอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาคำตอบแชตบอต ไม่ได้มีแค่คุณภาพของข้อมูลจำนวนมาก ที่มาจากการทำงานของ ChatGPT หรือ การเรียนรู้ของเอไอ แต่อุปสรรคมาจากประเภทของข้อมูลด้วย

ผู้บริหารบริษัทเทคฯ คนหนึ่ง กล่าวว่า “การควบคุมโลกไซเบอร์อย่างเข้มงวดของจีน ทำให้ประเทศสร้างคอนเทนต์ด้วยเอไอได้ยากลำบาก และเป็นอุปสรรคต่ออินเทอร์เน็ตที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในเวียดนามเช่นกัน

“ChatGPT เขียนภาษาเวียดนามได้ดีมาก เหมือนพูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยิ่งเล่นกับแชตบอตมากเท่าไร ยิ่งเห็นข้อจำกัดของมันมากเท่านั้น” แดง ระบุ

ChatGPT เป็นซอฟต์แวร์เพื่อผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกเป็นประวัติการณ์ มีแฟนคลับมากมาย รวมถึง มหาเศรษฐีพันล้านจากตระกูลอดานีที่โพสต์แสดงความสนใจแอปนี้ในลิงก์อิน 

 การค้นหา “ChatGPT ในเวียดนาม” ให้ผลลัพธ์ 13.5 ล้านรายการในกูเกิล ที่เปิดตัวแชตบอตแบรด (Bard) เพื่อแข่งขันกับแชตบอตบิง (Bing) ที่ทำงานด้วย ChatGPT เช่นกัน