IMET MAX ปีที่ 5 ร่วมสร้าง "ผู้นำรุ่นใหม่" พาสังคมไทยสู่อนาคต

เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน การเกิดโรคระบาด โลกร้อน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และอื่นๆ คือประเด็นที่ประชาคมโลกและประเทศไทยให้ความสำคัญ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกองค์กรต่างต้องการผู้นำที่ความสามารถ เพื่อพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางความท้าทายและบริบทโลกใหม่ๆ แต่ในเวลาเดียวกัน เราต่างต้องการผู้นำที่ดี เสียสละ และสามารถใช้ความเก่งนำพาสังคมส่วนรวมฝ่าสถานการณ์แห่งความเปลี่ยนแปลงนี้ได้เช่นกัน

ในวันที่สังคมไทยต้องการทั้ง "ความเก่ง" และ "ความดี" ไปพร้อมๆ กัน มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย หรือ IMET จึงเป็นหนึ่งในการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำที่พร้อมทั้งความเก่งและความดี ควบคู่ไปกับการตอบแทนคุณสู่สังคมไทย ผ่านโครงการ "IMET MAX" ซึ่งเปิดตัวโครงการปีที่ 5 ไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566

สำหรับ IMET MAX หรือ IMET Mentorship Academy for Excellent Leaders เป็นโครงการที่มุ่งส่งต่อปัญญา เพื่อพัฒนาชีวิตและสังคม (Wisdom for Life and Social Values) ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่นที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนา ยกระดับ และหล่อหลอมผู้บริหารรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำที่ดี สามารถสร้างประโยชน์ที่มีคุณค่าให้กับตนเอง สังคม และประเทศ โดยกระบวนการสร้างผู้นำแบบ IMET MAX นั้น จะใช้วิธีการ Mentoring หรือ "กระบวนการช่วยคิดและชวนคิด" อันเป็นกระบวนการเสริมสร้างปัญญาด้วยการสร้างมุมมอง "สะท้อนย้อนคิด" (Reflection) และการถ่ายทอดความรู้ แนวคิด และประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่ได้สะสมมายาวนานจากเมนเทอร์ (Mentor) ที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม มาสู่ เมนที (Mentee) ผู้บริหารชั้นนำรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและตอบแทนสังคม 

ธนพล ศิริธนชัย กรรมการมูลนิธิ IMET และประธานโครงการ IMET MAX กล่าวว่า ผู้นำรุ่นใหม่ล้วนมีความเก่ง และความสามารถสูง แต่ในโลกปัจจุบัน จะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นคนดีและมองถึงการตอบแทนให้กับสังคมด้วย โครงการ IMET MAX จึงเล็งเห็นว่า กระบวนการเรียนแบบ Mentoring ที่เป็นการชวนคิดและช่วยคิด เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้เมนที (Mentee) ได้พบปะพูดคุยกับเมนเทอร์ (Mentor) และสามารถเรียนรู้อย่างใกล้ชิดแบบกลุ่มย่อย ผ่านประสบการณ์ที่ใช้การบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งเน้นเรื่องสติปัญญาที่สมบูรณ์พร้อม (Wisdom for Life and Social Values) ที่ช่วยสร้างคุณค่าและความสมดุลของชีวิต ทั้งในเรื่องงาน การใช้ชีวิต และการตอบแทนสังคม  

"โครงการ IMET MAX ไม่มีห้องเรียน ไม่ได้เน้นการสังสรรค์เพื่อสร้างคอนเน็กชัน แต่จะมุ่งสร้างผู้นำรุ่นใหม่ โดยการคัดเลือกจากผู้นำองค์กรต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งธุรกิจ ข้าราชการ องค์กรพัฒนาเอกชน ฯลฯ เพื่อให้คนกลุ่มนี้ เป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่คนเก่ง แต่ต้องเป็นผู้นำที่เป็นคนดี รู้จักการเป็นผู้ให้ ยึดมั่นในความถูกต้อง และการตอบแทนสังคม โดยทางมูลนิธิฯ นำร่องการเป็นผู้ให้ ด้วยการสร้างโครงการ IMET MAX และสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด" ธนพล กล่าว

ส่งต่อประสบการณ์สู่ผู้นำรุ่นใหม่

กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด และในฐานะเมนเทอร์ (Mentor) ของโครงการ IMET MAX กล่าวว่า ตนเองและเมนเทอร์ (Mentor) ทุกท่านที่อาสาเข้าร่วมโครงการ ล้วนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการตอบแทนสังคม และการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงพลังและทรงคุณค่าของสังคม โดยผู้นำรุ่นใหม่ ล้วนเป็นบุคคลที่มีศักยภาพสูงและเป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้น การได้มีส่วนในการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้เพียบพร้อมด้วยคุณค่าและคุณธรรม รู้จักตอบแทนสังคม จึงเป็นภารกิจที่ท้าทาย แต่คุ้มค่าและน่าภูมิใจอย่างยิ่ง   

"ตั้งใจเข้าร่วมโครงการในฐานะผู้ให้ คือให้ความรู้ ให้คำแนะนำ ถ่ายทอดประสบการณ์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว กลับได้มีโอกาสในการเรียนรู้ทักษะ มุมมอง และความคิดของผู้นำรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราคิดว่าเราส่งพลังใจให้เขา แต่กลายเป็นเขาส่งพลังใจมาให้เรามากกว่า ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า ณ วันนี้คนรุ่นใหม่เขาต้องอะไร เขามองอะไร เขาทำอะไรอยู่ อะไรที่เป็นสิ่งที่เขาคิดว่ามีความสำคัญในชีวิต และประสบการณ์ของเราจะช่วยพัฒนาเขาได้อย่างไร" กอบกาญจน์ กล่าว 

ปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ในฐานะเมนที (Mentee) รุ่นที่ 1 และคณะทำงานโครงการ IMET MAX กล่าวว่า การตั้งเป้าหมายและสร้างแผนทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระบวนการชวนคิดของเมนเทอร์ (Mentor) ทำให้เราในฐานะเมนที (Mentee) เห็นเป้าหมายของตัวเอง และมีเจตนารมณ์ในการใช้ชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้น บางปัญหาที่ไม่สามารถปรึกษาคนรอบข้างหรือคนในองค์กรได้ กลับได้รับการปลดล็อกจากกระบวนการ Mentoring ที่พี่ๆ Mentor ได้ชวนคิดและช่วยคิด ทำให้เกิดมุมมองในการจัดการปัญหาเหล่านี้ได้แหลมคมขึ้น และหลังจากที่ได้เข้าร่วม IMET MAX รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโครงการ ทำให้มีความเชื่อในศักยภาพของตัวเอง และพร้อมส่งต่อศักยภาพนี้ให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก นับเป็นโอกาสสำคัญที่ได้เรียนรู้มุมมอง ความคิดเห็น และเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้นำระดับประเทศเหล่านี้

เปิดตัว 12 ผู้บริหารชั้นนำ พัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ 36 คน

สำหรับโครงการ IMET MAX รุ่นที่ 5 ได้รับเกียรติจาก 12 ผู้บริหารชั้นนำของประเทศที่ล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม มาร่วมเป็นเมนเทอร์ (Mentor) ประกอบด้วย กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร, จรีพร จารุกรสกุล, จรัมพร โชติกเสถียร, ธีรพงศ์ จันศิริ, บรรยง พงษ์พานิช, ปรีชา เอกคุณากูล, ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร, ภาณุ อิงคะวัต, วรรณิภา ภักดีบุตร, ดร.วิรไท สันติประภพ, วิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ และสมประสงค์ บุญยะชัย โดยทั้งหมดจะมาให้คำชี้แนะ คำปรึกษา ช่วยคิด และชวนคิด รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ (Mentee) จำนวน 36 คน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนา และสามารถประยุกต์คุณค่าที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและสังคม 

ผู้สนใจสมัครเป็นเมนที (Mentee) ในโครงการ IMET MAX สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ IMET MAX หรือยูทูบ IMET MAX Thailand และสมัครเข้าร่วมโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2566