ทำธุรกิจ ถ้ารายได้และธุรกิจไม่เติบโตทุกปี แสดงว่าห่วยมากจริงหรือ !?
สิ่งที่น่าเห็นใจก็คือ….เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารจำนวนไม่น้อย ที่ธุรกิจก็ไม่เติบโตแต่ต้องสูญเสียครอบครัวหรือสุขภาพย่ำแย่ จนสูญเสียทั้งตัวตนและธุรกิจ เพราะตั้งโจทย์ผิดแต่แรกที่ต้อง เติบโตสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องทุกปี !
Part.1.ท่าน รู้สึกอย่างไรกับประโยคนี้ !?
ทำธุรกิจ ถ้ารายได้และธุรกิจไม่เติบโตทุกปี แสดงว่าห่วยมาก ไม่ได้เรื่อง !?
ถ้าเจ้าของธุรกิจท่านใดเห็นด้วยกับประโยคข้างต้นนี้อย่างเต็มที่ ก็เป็นไปได้ว่า ท่านและธุรกิจของท่าน
กำลังไปได้สวย รายได้และธุรกิจของท่านเติบโตอย่างต่อเนื่องมาทุกปี น่ายินดีอย่างยิ่ง (ว่าแต่ว่าจะมีสักกี่ % ของธุรกิจในปัจจุบัน ที่ผ่านวิกฤติโควิดมาได้อย่างสง่างาม รวมทั้งรายได้และธุรกิจเติบโตมาต่อเนื่องทุกปี !?)
หรืออาจมีหลายท่าน ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันธุรกิจและรายได้อาจขึ้นๆลงๆ บ้างก็ซวนเซเจียนอยู่เจียนไป แต่ก็ยังเห็นด้วยกับประโยคข้างต้น
ผมเดาเอาเองว่า คงมีเจ้าของธุรกิจส่วนน้อยเท่านั้น ที่ไม่เห็นด้วยกับประโยคข้างต้น โดยมีความเชื่อและวิธีในการทำธุรกิจที่ไม่ได้เน้นรายได้และการเติบโตเป็นเป้าหมายหลัก
Part.2. เราอยู่ในโลกของ ความโลภและการกระตุ้นให้บริโภคเกินความจำเป็นหรือเปล่า…!?
ถ้าจะถามว่าดูจากอะไร ล่ะ ว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เราถูกกระตุ้นให้บริโภคทุกอย่างเกินความจำเป็นและทำธุรกิจด้วยความโลภ มากกว่าทำธุรกิจด้วยจิตใจที่ดีงามหรือไม่
ตัวอย่างง่ายๆ เวลาท่านเข้าร้านสะดวกซื้อ มีกี่ครั้งที่ท่านซื้อตามความจำเป็นตามที่ตั้งใจแต่แรก และมีกี่ครั้งที่ท่านซื้อเกินความจำเป็นเพราะลด แลก แจก แถม แล้วอ้างเหตุผลกับตัวเองว่า ถูก ประหยัด!?
เมื่อก่อนการขายของและทำธุรกิจทาง Online ยังไม่เติบโตเท่าปัจจุบัน เรามักจะเห็นธุรกิจโหมโฆษณาผ่านสื่อหลักของอดีต(เช่น ทีวี สิ่งพิมพ์ วิทยุ ฯลฯ) กระตุ้นให้ไปซื้อเพราะลดกระหน่ำต่างๆ
แต่ในปัจจุบัน เราถูกกระตุ้น 24 ชั่วโมงทางมือถือด้วยแพลตฟอร์มต่างๆตลอดเวลา ให้สั่งซื้อสะดวก
ส่งถึงบ้าน โอนจ่ายทางมือถือที่ให้ความรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้จ่ายเงิน เพราะไม่ต้องจับไม่ต้องนับธนบัตรที่จับต้องได้เหมือนในอดีต (คนที่เสพติดการช็อป Online จำนวนมากก็ยังเป็นเช่นนี้อยู่ในปัจจุบัน)
Part.3. เมื่อทุกธุรกิจต้องเพิ่มรายได้ ต้องเติบโตทุกไตรมาส ทุกปี!
ถนนในประเทศมีเพิ่มขึ้นในแต่ละปีน้อยมาก แต่ทุกค่ายรถยนต์ต้องเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นทุกปี !
ผังเมืองในกรุงเทพพื้นที่จำกัด แต่จำนวนบ้านและคอนโดและอาคารให้เช่า ต้องสร้างต้องขายเพิ่มทุกปี!
มือถือที่ยังสามารถใช้ได้เป็นปีหรือหลายปี ถูกกระตุ้นให้เปลี่ยนมือถือไม่ถึงปี เป็นต้น!
ในตอนที่แล้วที่ผมเขียนเรื่องเมื่อเจ้าของกิจการ ต้องเป็น หนูถีบจักร พักไม่ได้ เหนื่อยตลอดชีวิต !? ถ้าท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านลองย้อนกลับไปอ่านดูนะครับ (อาจจะเรียกตอนนั้นว่าเป็นภาค 1 ก็ได้) เพราะไม่ว่าท่านจะเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องเหนื่อยตลอดชีวิตหรือไม่ ในอีกบทบาทของท่าน ที่เป็นผู้บริโภค เราๆท่านๆต่างก็เป็น หนูถีบจักร หยุดพักไม่ได้ เพราะถูกกระตุ้น ให้เกิดความอยาก (ที่เกินความจำเป็น) ให้เกิดความโลภให้บริโภค ให้ซื้อตลอดเวลา……ไม่แน่ใจว่า ซื้อและบริโภคจนสุขล้น หรือทุกข์ทนกันแน่!?
ไม่ต้องแปลกใจที่หนี้ครัวเรือนในประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี และสร้างความทุกข์ทรมานให้กับลูกนี้บางส่วนที่บริโภคแบบ “ของมันต้องมี” จนทุกข์ทรมาน และลูกหนี้บางส่วนที่จำเป็นต้องไปกู้เงินนอกระบบเพื่อมาหมุนในธุรกิจ จนชีวิตส่วนตัวและครอบครัวเครียดทุกข์ระทม
แต่ไม่ส่งผลกระทบถึงความรู้สึกของเจ้าของธุรกิจ ทุกธุรกิจ ที่ยังคงมุ่งมั่น สร้างและกระตุ้นให้ลูกค้าบริโภคให้มากขึ้น มากขึ้นทุกๆวันทุกๆ ปีเพราะ ธุรกิจที่สร้างรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ยิ่งต้อง “สร้างและตกแต่ง” ตัวเลขให้ดูดี เติบโตทุกปี จนกระทั่งบางบริษัท ตกแต่งตัวเลขจนผู้ถือหุ้นเจ๊งกันระนาวอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน!
Part.4.ทำธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน…..?
ยังโชคดีของผู้คนบนโลกและในประเทศนี้ ที่ยังมีธุรกิจ ที่ไม่ได้เน้นเติบโต เพิ่มรายได้แบบหิวกระหายในโลกทุนนิยมและบริโภคนิยมที่เป็นพิมพ์นิยมของธุรกิจส่วนมาก
ธุรกิจส่วนน้อยนี้ เน้นสร้างคุณค่าให้ลูกค้า สังคม และทีมงาน ก็ยังสามารถเติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องกระตุ้นให้บริโภคเกินความจำเป็น และผู้บริหารตั้งแต่ระดับสูงสุดลงมาจนถึงพนักงานทุกระดับ ทำธุรกิจ ทำงาน ด้วยความเครียดที่น้อยกว่า เพราะไม่เอาชีวิตผู้บริหารระดับสูงและพนักงาน ไปผูกยึดกับตัวเลขที่ต้องเติบโตแบบหิวกระหาย จนหัวใจจะวาย เส้นเลือดในสองเกือบตีบ เป็นระยะอย่างที่ เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจที่หิวกระหายการเติบโตการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น มากขึ้น เป็นกันอยู่ในปัจจุบัน!
เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงหลายคน ธุรกิจประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ สร้างการเติบโต แต่ต้องสูญเสียช่วงเวลาที่มีกับครอบครัว เพราะต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับธุรกิจ บางคนก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายหรือจากไปก่อนวัยอันควร
สิ่งที่น่าเห็นใจก็คือ….เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารจำนวนไม่น้อย ที่ธุรกิจก็ไม่เติบโตแต่ต้องสูญเสียครอบครัวหรือสุขภาพย่ำแย่ จนสูญเสียทั้งตัวตนและธุรกิจ เพราะตั้งโจทย์ผิดแต่แรกที่ต้อง เติบโตสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องทุกปี!
Part.5.จะเห็นด้วยหรือจะเห็นต่างกับประโยคนี้ในปีหน้า…..?
คงเป็นคำถามที่อยากให้ท่านถามตัวเองในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ปีหน้า ท่านและธุรกิจของท่าน ไปได้ด้วยดีอย่างมีคุณค่าและความสุข โดยไม่ต้องเอาชีวิตของท่านและพนักงานไป”ผูกติด”กับตัวเลขการเติบโตที่มากเกินไป จนชีวิตทุกคนจะสุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับตัวเลขนั้น
ในโอกาสนี้ขออวยพรปีใหม่ให้ผู้อ่าน CEO BLOGS และ กรุงเทพธุรกิจทุกท่าน ประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข พบแต่สิ่งดีๆตลอดปี 2567 ที่จะถึงนี้ทุกท่านนะครับ