THG แรงทะลุ 100 ? |ออฟเรคคอร์ด

THG แรงทะลุ 100 ? |ออฟเรคคอร์ด

หุ้นรพ. เฉิดฉายทำราคาขึ้นยกแผงอีกรอบหลังเคยขึ้นมาช่วง เดลต้าระบาด คราวนี้ THG ขึ้นนำโด่งราคาแตะ 100 บาท !!

๐๐๐ THG แรงทะลุ 100 ? 

ราคาหุ้นโรงพยาบาลกลับมาให้นักลงทุนได้เร้าใจกันยกแผง ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นให้เห็นได้ง่ายที่ราคาหุ้นจะพร้อมใจขึ้นยกกลุ่ม

ช่วงที่เคยเกิดขึ้นสายพันธุ์ “เดลต้าระบาดหนัก “ ผู้ป่วยทะลุหมื่นรายต่อวัน รอบนี้มีบทเรียนมาแล้วว่าหลังสงการนต์เป็นได้เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งแน่นอน พอ ผู้ป่วยเพิ่มสูง ขึ้น เงินเข้าโรงพยาบาลเพิ่มตาม แบบนี้จะไม่ได้ราคาหุ้นไหวเหรอ…

แต่ที่แรงกว่าเพื่อนและไปต่อไม่รอแล้วนะให้ THG ราคาหุ้นแป๊ปเดียวจาก 60 บาทมาที่ 96.25 บาท นิวไฮทุกระดับ จนทำให้จะกลายเป็นหุ้นที่ แตะหลัก 100 บาทได้ง่าย

ง่ายๆ ที่ว่าเพราะดันเป็น หุ้นเข้าสูตรสำเร็จ “ผู้ถือหุ้นใหญ่เก็บหุ้นไว้เยอะ”  มี  “พันธมิตรมาช่วยซื้อหุ้น “  “ปัจจัยธุรกิจกลับมาดี “ และฟลีโฟลตน้อยลง  

ทำให้  ราคาหุ้นขึ้น 1-2 ช่องราคากระโดดทันที มีตัวอย่างรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จให้เห็นแล้วกับหุ้นแบบนี้ ...จะใครที่ไหนก็พี่ DELTA อะซิ  

๐๐๐

ตลาดหุ้นไทยยืนแดนลบตลอดทั้งวันก่อนที่จะหยุดยาวสงกรานต์ ประกอบกับตลาดภูมิภาคถูกเทขายถ้วนหน้า นำโดยหุ้นจีนหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนต้องกลับมาล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่

ส่วนในบ้านเราจะเห็นว่า “หุ้นโรงพยาบาล” ดูโดดเด่นพร้อมใจบวกสวนกระดาน หวั่นผู้ติดเชื้อหลังหยุดยาวพุ่ง โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,678.46 จุด ลดลง 7.54 จุด หรือ 0.45% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,685.95 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,675.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,755.06 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติ 554.39 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯ ขาย 809.40 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 368.76 ล้านบาท มีเพียงนักลงทุนรายย่อยซื้อ 1,732.54 ล้านบาท

๐๐๐

ช่วงนี้หุ้นสนามบิน บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ออร่าเริ่มกลับมาเปร่งประกายอีกครั้ง กลายเป็นดาวเด่นในกลุ่มท่องเที่ยวของหลายๆ สำนัก รับอานิสงส์บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก หลังผ่อนคลายมาตรการเข้าไทยไม่ต้องตรวจ RT-PCR จากประเทศต้นทาง ตั้งแต่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน เฉลี่ยมากกว่า 1 หมื่นคน/วัน

และถ้าหลังสงกรานต์ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คงได้เห็นการผ่อนคลายเงื่อนไขเพิ่มเติม แถมบรรดาสายการบินกำลังทยอยกลับมาเปิดบินระหว่างประเทศ ยิ่งทำให้หุ้น AOT ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ล่าสุดมาปิดที่ 67 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.37%

๐๐๐

บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เป็นอีก 1 หุ้น ที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 74% ล่าสุดมาปิดที่ 37 บาท รับอานิสงส์จาก “พลังเต่าบิน” ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติที่กำลังฮอตฮิต! ไปทั้งบ้านทั้งเมือง มีออเดอร์อยากให้ไปตั้งในสถานที่ต่างๆ เพียบ แถมกำลังจะโกอินเตอร์ไปเปิดตลาดต่างประเทศอีกด้วย

๐๐๐

ด้าน บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ร่วง 3.56% ลงมาปิดที่ 61 บาท ดูแล้วแนวโน้มผลประกอบการยังไม่ค่อยสดใส ปลายปีก่อนพึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวัง หลังมีปัญหาในการเดินเครื่องจักรใหม่

เปิดมาปีนี้ แนวโน้มกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 น่าจะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทต้องหยุดผลิตชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนซัพพลายเชน แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายในไตรมาสนี้ ดังนั้น ใครมองๆ หุ้นตัวนี้อยู่ คงต้องเน้นเล่นยาวๆ น่าจะเหมาะกว่า

๐๐๐

 ส่วนหุ้นเดินเรือ บมจ.พริมา มารีน (PRM) มาปิดที่ 6.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.52% หลังคว้างานใหม่ให้บริการเรือ Crew Boat ให้กับ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เพิ่มอีก 9 ลำ จากเดิม 4 ลำ ส่งผลให้อัตราการใช้เรือเต็ม 100% ช่วยหนุนการเติบโตของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง