SPRC ประมาณการ 1Q65F: กำไรรายไตรมาสจะทำสถิติสูงสุดใหม่

SPRC ประมาณการ 1Q65F: กำไรรายไตรมาสจะทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SPRC ใน 1Q65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.9 พันล้านบาท (+142% YoY, +162% QoQ) เนื่องจากมีกำไรจากสต็อกน้ำมันและ base GRM เพิ่มขึ้น

โดยเราคาดว่ากำไรจากสต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้นถึง 88% YoY และ 437% QoQ เป็น 5.0 พันล้านบาท  หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งแรงจาก US$73/bbl ในเดือนธันวาคม 2564 เป็น US$111/bbl ในเดือนมีนาคม จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ในขณะที่คาดว่า base GRM ของ SPRC จะเพิ่มขึ้นถึง 145% YoY และ 45% QoQ เป็น US$8.6/bbl ซึ่งถือเป็นระดับที่สูง (สูงกว่า US$7/bbl) เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็น US$17.8/bbl, US$16.2/bbl และ US$19.6/bbl ตามลำดับ เพราะอุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียสะดุดลง ส่งผลให้ i) อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นในยุโรป
ลดลง และ ii) การส่งออกน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลจากจีนลดลง นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการกลั่นจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ เป็น 150KBD เนื่องจาก spread ของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม SPRC จะบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ 42 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือ 1.4 พันล้านบาท) ใน 1Q65 จากกรณีน้ำมันรั่วนอกชายฝั่ง Single Point Mooring (SPM) ในปลายเดือนมกราคม แต่หากไม่รวมกำไรจากสต็อกน้ำมันและค่าใช้จ่ายพิเศษ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SPRC ใน 1Q65 จะเพิ่มขึ้น 116% QoQ เป็น 2.0 พันล้านบาท

 

 

 

 

แจ้ง SET ว่าจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 42 ล้านดอลลาร์ฯ จากกรณีนํ้ามันรั่ว

ค่าใช้จ่ายพิเศษใน 1Q65 ประกอบด้วย i) ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง 31 ล้านดอลลาร์ฯ และ ii) การตั้งสำรอง 11 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะไม่ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกรณีน้ำมันรั่วเพิ่มอีกอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ (ถ้ามี) นอกจากนี้ SPRC ยังคาดว่าประกันจะครอบคลุมค่าเสียหายประมาณ 17 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ 40% ของค่าใช้จ่ายพิเศษทั้งหมด โดยคาดว่าบริษัทจะรับค่าเสียหาย 25 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือ 830 ล้านบาท) เอาไว้เอง ทั้งนี้ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจากกรณีน้ำมันรั่วจะสูงกว่าที่เราคาดไว้ประมาณ 300 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการกำไรปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 6.6 พันล้านบาท เนื่องจาก base GRM ใน YTD65 ดีกว่าที่คาดไว้อย่างมาก

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ SPRC โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13.00 บาท อิงจาก adjusted EV/EBITDA ที่ 6.5x และหัก discount 10% จากประเด็นด้าน ESG หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่ว เราเชื่อว่ากำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 1Q65 จะช่วยหนุนราคาหุ้น และเนื่องจากจากเรามองบวกกับแนวโน้มตลาดโรงกลั่น ดังนั้น SPRC จึงยังคงเป็นหุ้นเด่นอันดับแรกของเราในกลุ่มพลังงาน

 

Risks
 

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและ GRM