หอการค้าไทย ชง 4 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย

หอการค้าไทย ชง 4 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย

ปธ.หอการค้าไทย เดินหน้าทำงาน หลังทำงานครบ 1 ปี วางทิศทางขับเคลื่อนองค์กรฟื้นเศรษฐกิจไทย 4แนวทางทั้งประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ต่ออายุคนละครึ่ง ขยายเวลาเก็บภาษีที่ดินและก่อสร้าง เร่งรัดรัฐเสนอสภาเห็นชอบขยายเวลาหนี้สาธารณะ

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้กำหนดนโยบายการดำเนินงาน ต่อเนื่องจากนโยบายเร่งด่วน 99 วัน ที่ได้ดำเนินการจนสำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังประสบปัญหาหลายอย่าง เช่นเรื่องโควิดที่ยังระบาดอยู่ และมีมาตรการหลายอย่างที่ทำให้เดินหน้าเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ หอการค้าฯเห็นว่า 1.ควรเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั่วประเทศให้เกิน 70% แล้วประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็ว ซึ่งหากเป็นไปได้ควรประกาศหลังสงกรานต์นี้ เพราะเราพึ่งพิงทั้งการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนกับต่างชาติ การประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นได้เร็ว จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมา 

2.การกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศเป็นเรื่องสำคัญ โดยมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 กำลังจะหมดรอบในเดือนเม.ย.นี้ มีเม็ดเงินในระบบสะพัดแล้วกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นมาตรการที่ได้ประโยชน์และบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนได้จริง เชื่อว่า จะช่วยลดแรงกดดันที่ต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จากภาวะสินค้าราคาแพงได้อีกด้วย 

นายสนั่น กล่าวว่า 3.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ควรขยายเวลาการเก็บเต็มจำนวนออกไปก่อน แล้วค่อยทยอยเก็บเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได ก็จะช่วยลดภาระให้ประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีนี้ได้4.เร่งรัดการการเสนอขยายเพดานหนี้สาธารณะ จาก 60% ให้เป็น 70% ผ่านสภาฯ เพื่อให้รัฐบาลสามารถกู้เงินมากระตุ้นและพยุงเศรษฐกิจได้ เพราะขณะนี้เพดานหนี้ใกล้เต็ม 60% แล้ว อีกทั้งเงินกู้เดิมก็เหลือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และตอนนี้ยังเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ การกู้เงินเพิ่มมากระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดภาระหนี้ เพื่อ Reboot เศรษฐกิจ และดูแลกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดการฟื้นตัว 

“ตอนนี้เครื่องจักรที่จะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในปีนี้ คือเรื่องการส่งออก ซึ่งการดูแลค่าเงินบาทและการอำนวยความสะดวก จะเป็นปัจจัยให้การส่งออกเดินหน้าได้ดีขึ้น ดังนั้น ปัญหาเร่งด่วนในตอนนี้ คือการแก้ปัญหาการส่งออกผลไม้ไปจีน ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมรัฐบาล ที่ได้ช่วยจัดการไปเจรจากับประเทศจีน โดยผมเพิ่งเดินทางกลับมาพร้อมกับท่านดอน  ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งได้มีการหารือกับท่านหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐ และ รมว.ต่างประเทศ และทีมเศรษฐกิจ ในการแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มเวลาเปิดด่าน รวมถึงจะส่งเจ้าหน้าที่จีนมาช่วยตรวจสินค้าตั้งแต่ต้นทางอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่า สถานการณ์จะสามารถคลี่คลายต่อไปได้” นายสนั่น กล่าว