Sideways เก็งกำไร CENTEL HMPRO COM7 (1 เม.ย. 65)

หลังจากวานนี้ตลาดกลับมาทำการซื้อขายด้วยวอลุ่มที่ลดลงกว่าปกติอีกครั้ง โดยหากดัชนีฯ สามารถปิดเหนือ 1,700 จุด ได้ด้วยปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่ง จะเป็นสัญญาณซื้อเพิ่ม โดยปัจจัยที่กดดันตลาดวันนี้ ได้แก่ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ไฮไลท์วันนี้ จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือน มี.ค. รายงานภาคการผลิตเดือน มี.ค. ของประเทศพัฒนาแล้ว และรายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค. ของ EU

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

       +KTZ Portfolio: พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH AJ DOD MC SGP TFG TWPC UTP XO SAT SMT ส่วนพอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP JMT CENTEL BH ADVANC AOT BBL EA DTAC COM7 KBANK MINT KTB PLANB BLA

       +/- น้ำมันปรับตัวลดลง: +หุ้นกลุ่มที่เคยโดนเทขายจากความกังวลด้านต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานมีแนวโน้มฟื้นตัว เป็นโอกาสในการเก็งกำไรระยะสั้น SCC SCCC TASCO SCGP DCC GPSC BGRIM GULF AAV BA BJC CK STEC TU

     +/-ดอกเบี้ยขาขึ้น: +กลุ่มการเงิน BBL KBANK BLA THREL –กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ SCC SCCC SCGP BJC MAKRO MINT CRC GPSC BGRIM AAV BA

      +Earnings Play ลุ้นผลกำไร 1Q22E +BCH BH HANA DTAC PTTEP MAJOR KBANK BBL

      +EV: งานมอเตอร์โชว์สิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. +TTB TISCO KKP NEX EA GPSC

 

ปัจจัยบวก

       Fundflow: นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 391.36 ล้านบาท ส่งผลให้ใน 1Q22 ซื้อสุทธิไปแล้ว 110,864.29 ล้านบาท

 

 

ปัจจัยลบ

        Geopolitical Risks: การสู้รบที่ยังคงดำเนินไปในยูเครน ทำให้นานาชาติไม่เชื่อมั่นว่ารัสเซียจะมีการลดการปฏิบัติการทางทหารอย่างที่ให้คำมั่นไว้ในการเจรจาสันติภาพที่ประเทศตุรกี ส่งผลให้ตลาดยังคงมีความกังวลว่าสงครามอาจจะยืดเยื้อกว่าที่คาด

        ราคาน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent ยังคงปรับตัวลง แม้ว่ากลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปคพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม หลังจากสหรัฐฯ แถลงการณ์ ระบายน้ำมันจำนวน 180 ล้านบาร์เรล ออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเวลำ 6 เดือน เริ่มวันที่ 1 เม.ย. (-หุ้นกลุ่มน้ำมัน)

 

ประเด็นสำคัญ

         - Opportunity Day วันนี้ SIS NCAP INET SKE TQR RT TMT

         - อินโดนีเซีย ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มี.ค. โดย Consensus คาดอยู่ที่ 2.56% (Vs 2.06% เดือน ก.พ.)

         - EU ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มี.ค. โดย Consensus คาดอยู่ที่ 6.6% YoY (Vs 5.9% YoY เดือน ก.พ.)

         - USA ตัวเลข Non-farm Payroll โดย Consensus คาดอยู่ที่ 4.9 แสนราย (Vs 6.78 แสนราย เดือน ก.พ.)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: ดัชนีฯ มีความพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,700 จุด ในช่วงต้นของการซื้อขาย ก่อนที่จะแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดที่ 1,695.24 จุด -3.16 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.1 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.50% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -0.72% กลุ่มพาณิชย์และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -0.58% หุ้นบวก >4% MSC TEAMG JUTHA PT BWG GIFT THCOM UMI MACO NUSA SLP AMR GEL THREL ASIMAR หุ้นลบ >4% SA PRIN TKS W UP SAMTEL SFLEX JCK

 

 

 

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: DJIA -1.56% S&P500 -1.57% NASDAQ -1.54% เพราะกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขเงินเฟ้อ (Core PCE Price Index) เดือน ก.พ. +5.4% YoY สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 1983 และการออกมาตรการตอบโต้ของประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศว่าจะระงับสัญญาป้อนอุปทานก๊าซธรรมชาติแก่ยุโรป จนกว่ายุโรปจะจ่ายเงินด้วยสกุลรูเบิล ในขณะที่ยูเครนเตรียมพร้อมถูกโจมตีอีกระลอก ปัจจัยดังกล่าวกดดันตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเช่นกัน CAC40 -1.21% DAX -1.31% FTSE -0.83%

+/- น้ำมันดิบร่วงแรงส่วนทองคำปิดบวก: WTI -USD7.54 ปิดที่ USD100.28/บาร์เรล Brent -USD5.54 ปิดที่ USD107.91/บาร์เรล หลังประธานาธิบดีไบเดนเตรียมปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 6 เดือน ในความพยายามสยบราคาน้ำมันและก๊าซธรมชาติ ส่วนราคาทองคำปิดบวก +USD15 ปิดที่ USD1,954/ออนซ์ จากแรงซื้อในฐานะเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

 

ประเด็นสำคัญ

- USA: ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ระบุว่าสหรัฐฯ จะระบายน้ำมันในคลังสำรอง จำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในประเทศ โดยจะระบายน้ำมัน จำนวน 180 ล้านบาร์เรล ออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 6 เดือน

- USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 1983 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.5%

- Russia: ประธานำธิบดีปูตินได้ลงนามในกฤษฎีกา ระบุว่าต่างชาติที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะต้องชำระเงินเป็นสกุลรูเบิลเท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. และสัญญาการซื้อก๊าซจะถูกระงับ หากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดำห์: TOP KBANK BH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CENTEL HMPRO COM7

Derivatives: เปิด Long S50M22 เมื่ออ่อนตัวบริเวณ 1,010-1,012 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)