Sideways เก็งกำไร MINT CPALL PTTEP (31 มี.ค. 65)

ทำให้ดัชนีฯ วันนี้มีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้าง หลังจากปรับตัวบวกขึ้นมาติดต่อกันหลายวันทำการ โดยจะเกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม หากดัชนีฯ สามารถปิดเหนือแนวต้านสำคัญที่ 1,700 จุด ได้ ปัจจัยที่กดดันตลาดวันนี้ มาจากการปรับตัวลดลงของหุ้นต่างประเทศจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าที่คาด และการสู้รบระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ยังคงดำเนินอยู่ แม้รัสเซียจะให้คำมั่นในการลดกำลังทหารรอบเมืองหลวงยูเครนก็ตาม ไฮไลท์วันนี้ จับตาผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัส อัตราการว่างงานเดือน ก.พ. ของ EU และ ตัวเลข Personal Spending และ Personal Income เดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

         +KTZ Portfolio: พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH AJ DOD MC TFG TWPC UTP XO SAT SMT (แนะนำขาย TPIPL ซื้อ SGP) ส่วนพอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC BEC TCAP JMT CENTEL BH ADVANC AOT BBL EA DTAC COM7 KBANK MINT KTB PLANB

         +/-น้ำมันพุ่ง / กังวลเงินเฟ้อ: +Commodity Play (Inflation Hedging) PTTEP BANPU KSL TWPC NER PTT INOX; TOP ESSO IRPC BCP (Stock Gain) –หุ้นอิงการบริโภคและต้นทุนน้ำมันสูง วัสดุก่อสร้าง โรงไฟฟ้า สายการบิน พาณิชย์ บริการรับเหมาก่อสร้าง SCC SCCC TASCO SCGP DCC GPSC BGRIM GULF AAV BA BJC CK STEC TU

         +/-ดอกเบี้ยขาขึ้น: +กลุ่มการเงิน BBL KBANK BLA THREL –กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ SCC SCCC SCGP BJC MAKRO MINT CRC GPSC BGRIM AAV BA

        +Earnings Play ลุ้นผลกำไร 1Q22E +BCH BH HANA DTAC PTTEP MAJOR KBANK BBL

        +EV: งานมอเตอร์โชว์สิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. +TTB TISCO KKP NEX EA GPSC

 

ปัจจัยบวก

       MPC: กนง. มีมติ 7 ต่อ 0 คงอัตรำดอกเบี้ยนโยบำยที่ 0.5% ในขณะที่ปรับลดคำดกำรณ์กำรเติบโต 2022E GDP จำก +3.4% เป็น 3.2% ซึ่งปรับลดลงน้อยกว่ำที่ตลำดคำด (ตลำดคำดกำรณ์ลดเหลือ 2.8% - 3.0%)

 

 

         ราคาน้ำมัน: ราคาน้ำมันรีบาวนด์ หลังปรับตัวลดลงมาหลายวัน เป็นผลจากสหรัฐฯ รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดที่ -3.44 ล้านบาร์เรล (Vs คาด -1.02 ล้านบาร์เรล) การกังวลต่อมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่อรัสเซียจากชาติตะวันตก และการเจรจาสันติภาพในยูเครน เริ่มมีความไม่แน่นอน (+หุ้นกลุ่มน้ำมัน)

 

ปัจจัยลบ

      Geopolitical Risks: กองกำลังรัสเซียยังคงโจมตีเขตชานเมืองของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนและเมืองที่ถูกปิดล้อมทางตอนเหนือของยูเครนในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งวันหลังจากมีการคำมั่นในการลดปฏิบัติการทางทหารในการเจรจาสันติภาพที่ตุรกี

 

ประเด็นสำคัญ

          - Opportunity Day วันนี้ IP CPANEL TPCH SPA AMATA TNP RAM

          - UK รายงานตัวเลข 4Q21 GDP Growth โดย Consensus คาดขยายตัว 6.5% ลดลงจาก 3Q21 ที่ 7%

          - เยอรมนี รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน มี.ค. โดย Consensus คาดการณ์ที่ 6.3%

          - USA รายงานตัวเลข Personal Spending และ Personal Income เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดขยายตัว 0.5% MoM เท่ากัน

          - USA ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดอยู่ที่ 1.97 แสนราย

 

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
 

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีฯ แกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1,700 จุด โดยทำจุดสูงของวันที่ 1,702.03 จุด ก่อนที่มีแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดปิดไปที่ 1,698.40 จุด +8.66 จุด วอลุ่มซื้อขาย 9.7 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มพาณิชย์ +1.70% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.70 กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +0.69% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.23% หุ้นบวก >4% CPN TH FVC PPM PSG THG SOLAR JWD TAKUNI INSET EE MSC HENG หุ้นลบ >4% UPA ESSO TPS SEAOIL THANA SE TRITN IT CPI

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ส่วนหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA -0.19% S&P500 -0.63% NASDAQ -1.21% ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี ขยับลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังจากรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีเมืองหลวงของยูเครนอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการให้คำมั่นลดปฏิบัติการทางทหารก็ตาม จนมีความกังวลว่าตะวันตกอาจกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน CAC40 -0.74% DAX -1.45% FTSE +0.55% เพื่อรอดูสถานการณ์ยูเครน นำขึ้นโดยกลุ่มพลังงาน และเหมืองแร่

+ น้ำมันดิบและทองคำรีบาวนด์: WTI +USD3.58 ปิดที่ USD107.82/บาร์เรล Brent +USD3.22 ปิดที่ USD113.45/บาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงถึง 3.4 ล้านบาร์เรล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย (คาด -1.02 ล้านบาร์เรล) ทำให้คลังน้ำมันดิบสำรองเหลือเพียง 410 ล้านบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2018 ส่วนตลาดทองคำรีบาวนด์ +USD21 ปิดที่ USD1,939.00/ออนซ์ จากความกังวลเกี่ยวกับการผิดคำสัญญาของรัสเซียเกี่ยวกับการลดระดับปฏิบัติการทหาร และการกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD

 

ประเด็นสำคัญ

+/- Japan: ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ไม่คิดว่าการดำเนินการในตลาดของ BOJ จะส่งผลกระทบรุนแรงและโดยตรงต่อความเคลื่อนไหวของ เงินเยน และเป็นเรื่องเหมาะสมที่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ คำชี้แจงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ BOJ ได้เสนอซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลญี่ปุ่นด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่เมื่อวันจันทร์ (28 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา

+/- ผลประชุมกนง.: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2022 และ 2023 จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยผ่านการปรับขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ และอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง

+ Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.พ. 2022 อยู่ที่ระดับ 102.0 ขยายตัว 2.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2021 สำหรับ 2 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 2.38%

- USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำ 4Q21 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 6.9% เท่ากับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.0% และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.1%

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TOP KBANK BH

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MINT CPALL PTTEP

Derivatives: ปรับคำแนะนำเป็นเปิด Long S50M22 เมื่ออ่อนตัว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)