THAI ลุยเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้าน หวังคืนชีพธุรกิจ

THAI ลุยเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้าน หวังคืนชีพธุรกิจ

“การบินไทย” เผย อยู่ระหว่างเจรจาแบงก์ปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.5 หมื่นล้าน หวังเดินหน้าเพิ่มทุน รองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ หวังพ้น“เอ็นซี” คาดหากเปิดประเทศมากขึ้น เชื่อรายได้ฟื้น แย้ม อยู่ระหว่างศึกษาเปิดเส้นทางใหม่ “ซาอุดีอาระเบีย” ​

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโส รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างทุนว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อใหม่จำนวน 25,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจในระยะสั้น เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทยังไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ทำให้รายได้ไม่ได้เข้ามาเป็นปกติ

ทั้งนี้ หากเจรจากับสถาบันการเงินที่จะปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับบริษัทสำเร็จบริษัทจะดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนสำหรับเจ้าหนี้ที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับบริษัท ที่ราคาหุ้นละ 2.54 บาท โดยหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จจะทำให้โครงสร้างทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้น และกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

“จากที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้การบินไทย เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 2 (NCระยะที่ 2) จากส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์นั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทุน และโครงสร้างหนี้ โดยกำลังเจรจากับแบงก์ เพื่อปล่อยสินเชื่อใหม่ ซึ่งหากเจรจาเสร็จแล้วบริษัทจะเพิ่มทุน เพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนให้กับแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับบริษัท

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้า โครงการแผนปฏิรูปธุรกิจ (Transformation Initiatives) ต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว 53,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 50,700 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดค่าใช้จ่ายพนักงาน  และปรับลดสวัสดิการพนักงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และในอุตสาหกรรม  ทำให้ค่าใช้พนักงานจาก 2,450 ล้านบาท เหลือ 660 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งปรับลดจำนวนเครื่องบินจากเดิม 9 แบบ เหลือ 4 แบบ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแลซ่อมบำรุงเครื่องบินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

THAI ลุยเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ 2.5 หมื่นล้าน หวังคืนชีพธุรกิจ นายชาย กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น หากประเทศไทยเปิดประเทศมากขึ้น รวมทั้งประเทศต่างๆ มีการเปิดประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประเทศที่เปิดจะเป็นยุโรป แต่หากประเทศที่เป็นตลาดหลัก ญี่ปุ่นและจีน มีการเปิดประเทศเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้น  และแม้ว่าญี่ปุ่นและจีนยังไม่เปิดประเทศแต่บริษัททดแทนด้วยการขนส่งสินค้าเข้าไปประเทศดังกล่าวจำนวนมาก

โดยในช่วงเดือนม.ค. 65 นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยอยู่ที่ 133,903 คน เพิ่มขึ้น 1,640%  โดยบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาจะเปิดเส้นทางการบินไป ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาเสร็จแล้วเหลือรออนุมัติจะสามารถทำการบินได้เมื่อไร และหากประเทศต่างๆ มีการเปิดประเทศมากขึ้น บริษัทจะให้ทางไทยสมายล์ทำการบินเส้นทางต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนปรับตัวลดลง เพราะในไทยไม่สามารถทำการบินในช่วงกลางคืน ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นบริษัทอยู่ระหว่างการขอปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน   

“การบินไทยปรับตัวมากขึ้น เพื่อรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต และการแก้ปัญหาต่างๆ กระบวนการภายในก็ปรับว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปไหมต้องปรับให้ยืดหยุ่นคล่องตัว สอดรับยุคนิวนอลมอล ที่ต้องยืดหยุ่นสูง และโปร่งใส คิดใหม่ทำใหม่ เราเป็นรัฐวิสาหกิจมา 60 ปี แล้วเปลี่ยนเป็นมหาชน และยังติดรัฐวิสาหกิจ ต้องเปลี่ยนแนวคิดของผู้บริหาร”