หอการค้าไทยจี้รัฐเร่งเปิดด่านชายแดน ดันการค้า-การท่องเที่ยว

หอการค้าไทยจี้รัฐเร่งเปิดด่านชายแดน ดันการค้า-การท่องเที่ยว

หอการค้าฯ ลุย อุบลฯ–อำนาจเจริญ-ยโสธร เปิดเวทีฟังเสียงผู้ประกอบการ ชงรัฐยกระดับจุดผ่อนปรนการค้า ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมเร่งรัดการเปิดจุดผ่อนปรนการค้า บ.ยักษ์คุ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เชื่อมโอกาสค้าชายแดน–ท่องเที่ยว

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี หอการค้าจังหวัดอำนาจเจริญ และหอการค้าจังหวัดยโสธร พร้อมลงพื้นที่ด่านศุลกากรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ว่า ในปี 2564 มีมูลค่าการค้าชายแดนกว่า 2 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ว่าปี 2565 มูลค่าการค้าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 30-40% หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งออกส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์การเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค

ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญคือ มันสำปะหลัง และผลผลิตทางการเกษตรต่าง ๆ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่มีความต้องการให้ภาครัฐเร่งพิจารณาเปิดด่านและอนุญาตให้นักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ เพื่อให้การค้าขายและการท่องเที่ยวในพื้นที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเชื่อมั่นว่าด่านช่องเม็กจะมีมูลค่าการค้าขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ภายหลังเปิดด่านอย่างเต็มรูปแบบภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

หอการค้าไทยจี้รัฐเร่งเปิดด่านชายแดน ดันการค้า-การท่องเที่ยว

“ที่ประชุมได้หารือและมีข้อเสนอที่สำคัญ คือ การเร่งรัดเปิดจุดผ่อนปรนการค้าและยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่ติดกับประเทศกัมพูชา มีศักยภาพในการยกระดับให้เป็นด่านการค้าถาวร และเร่งรัดการเปิดจุดผ่อนปรนการค้า บ.ยักษ์คุ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ที่ติดกับ สปป. ลาว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขยายตัวของการค้าในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สอดคล้องกับนโยบาย Trade and Travel ของหอการค้าไทย ที่มุ่งเน้นให้เกิดการค้าและการท่องเที่ยวควบคู่กันไป” นายสนั่น กล่าว

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเสนอให้มีการเร่งรัดโครงการก่อสร้างถนนไปยังแพขนานยนต์ บริเวณจุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มมีการดำเนินการแล้ว โดยหอการค้าจะประสานกับกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างดังกล่าว ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมทำหน้าที่ส่งเสริมศักยภาพและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่การค้าชายแดน เพื่อให้เกิดการยกระดับและสร้างโอกาสการค้าและการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป