จับตาดีลควบรวม TRUE-DTAC ผ่านฉลุย ที่ปรึกษาชี้ข้อดี
หุ้น “ทรู-ดีแทค” บวกสวนดัชนีตลาดหุ้น ด้าน“บล.กสิกรไทย” คาดดีลควบรวมสำเร็จ หลังความเห็นที่ปรึกษาเป็นบวก คาดกำไรเพิ่มขึ้น 4-5 พันล้านต่อปี-ให้ราคาเหมาะสมที่สูง “บล.หยวนต้า” แนะนำซื้อ ประเมินราคาหุ้นยังอยู่ในโซนถูก
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) วานนี้ (21 มี.ค.) ปรับตัวขึ้นสวนภาวะตลาดที่ปรับตัวลดลง โดย TRUE ปิดที่ 4.96 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.22% ขณะที่ DTAC ปิดที่ 49.25 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 2.07%
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น TRUE และ DTAC ได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยสารสนเทศเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัท รวมถึงรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนั้นมีประเด็นใหม่ 4 ข้อ ได้แก่
1. ระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นทั่วไป (เทนเดอร์) จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน ส.ค.2565 เลื่อนไปเป็นช่วงกลางเดือน ส.ค.2565 2. การรวมบัญชีของทั้ง 2 บริษัท คาดว่าจะสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นราว 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี 3. มูลค่าเหมาะสมของราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัทที่ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประเมิน สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์เอาไว้ โดย TRUE อยู่ที่ 5.30 บาทต่อหุ้น และ DTAC ที่ 48 บาทต่อหุ้น
อีกทั้ง ระดับราคาเหมาะสมดังกล่าวยังไม่รวมปัจจัยบวกจากการ Synergy ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และ 4. ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทจะไม่ถูกปรับสิทธิเงินปันผลจากการกำหนดราคาเทนเดอร์ของ TRUE ที่ 5.09 บาทต่อหุ้น และราคาเทนเดอร์ DTAC ที่ 47.64 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ บล.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น โดยเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ที่ดีลการควบรวมจะสำเร็จที่ 100%
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 4 เม.ย.2565 ซึ่งคาดว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติดีลการควบรวมกิจการ เพราะเป็นผลบวกต่อผู้ถือหุ้น ถัดมาคือความเห็นของเจ้าหนี้ต่อการควบรวมกิจการ และสุดท้ายคือความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในอีก 2-3 เดือน ภายหลังประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้น คาดว่าการควบรวมจะชัดเจนอย่างเร็วในช่วงปลายเดือน ก.ค. และอย่างช้าต้นเดือน ส.ค.
สำหรับการลงทุน แนะนำซื้อ TRUE และ DTAC ที่ราคาเหมาะสม 5.64 บาทต่อหุ้น และ 57.52 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ให้น้ำหนักการลงทุน DTAC มากกว่า TRUE เพราะผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับปันผลอีกครั้งในช่วงกลางปี รวมถึงอัตราการจัดสรรหุ้น (Swap Ratio) ของ DTAC มีอัตราที่ดีกว่า TRUE
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก ภายหลังที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเปิดรายงานการควบรวมกิจการ โดยคาดว่าจะมีกำไรราว 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นผลกำไรที่ยังไม่รวม Synergy ซึ่งหากพิจารณาร่วมด้วยคาดว่าบริษัทใหม่ (Merge Co) จะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และจะส่งผลให้กำไรสุทธิของ Merge Co อยู่ที่ราว 1.5-2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ขณะที่มูลค่า (Valuation) ของ TRUE และ DTAC ยังอยู่ในระดับต่ำ จากที่คาดว่ามูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ Merge Co จะอยู่ที่ราว 2.7 แสนล้านบาท เทียบกับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ซึ่งมีผลกำไรต่อปีใกล้เคียงกับบริษัทใหม่ แต่มีมาร์เก็ตแคปสูงมากกว่าเท่าตัวที่ 6.9 แสนล้านบาท จึงเชื่อว่าราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัท ควรซื้อขายที่ราคาสูงกว่าปัจจุบัน ให้ราคาเหมาะสม TRUE และ DTAC ที่ 6.40 บาทต่อหุ้น และ 59 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ