‘สยามพิวรรธน์’ครองฐานไฮเอนด์ ลักชัวรีแบรนด์ยอดโต2เท่าแม้ไร้เงาทัวริสต์

‘สยามพิวรรธน์’ครองฐานไฮเอนด์  ลักชัวรีแบรนด์ยอดโต2เท่าแม้ไร้เงาทัวริสต์

เป็นที่น่าจับตากับปรากฏการณ์ยอดขายทะลุเป้าทุกศูนย์การค้าในกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ท่ามกลางภาวะตลาดที่ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติมากว่า 2 ปี! หากแต่ลักชัวรีแบรนด์ (Luxury Brands) กลับเติบโตก้าวกระโดด!

สรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกเจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ กล่าวว่า การปรับกลยุทธ์การตลาดมุ่งทุกแพลตฟอร์มเจาะลูกค้ากำลังซื้อสูง ผ่านโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ Call & Shop Siam Paragon Luxury Chat & Shop และ Ultimate Chat & Shop

เพื่อช่วยขายสินค้าให้บรรดาร้านค้าและพันธมิตร ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมต่างจังหวัด ผลักดันรายได้สยามพิวรรธน์ไตรมาส 4/2564 เติบโต 15% ทะลุเป้า!   

อีกทั้งได้ร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายขยายช่องทางจำหน่ายแบบ Omni-Channel จนถึงการเปิดตัว ONESIAM SuperApp เมื่อปลายปี 2564 ทำให้ยอดซื้อกลุ่มลูกค้าสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 45% จากปี 2563 

สะท้อนกลยุทธ์ที่มาถูกทางภายใต้การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม สร้างอีโคซิสเต็มให้ 4 ศูนย์การค้าเป็นศูนย์กลาง “Earn&Burn” สิทธิประโยชน์ และ VIZ Coin เชื่อม 1,000 ร้านค้าและพันธมิตร 100 รายจาก 13 อุตสาหกรรม ซึ่งวางเป็นยุทธศาสตร์ต่อเนื่องปี 2565 ของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในไทย

‘สยามพิวรรธน์’ครองฐานไฮเอนด์  ลักชัวรีแบรนด์ยอดโต2เท่าแม้ไร้เงาทัวริสต์

"การแพร่ระบาดของโควิดเป็นปัจจัยที่ท้าทายอย่างต่อเนื่อง แต่สินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์มีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าคนไทยล้วนๆ ที่มีกำลังซื้อสูงในทุกศูนย์การค้า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนม ตอกย้ำให้สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็น Destination ของลักชัวรีแบรนด์ทุกประเภททั้งแฟชั่น เครื่องประดับ นาฬิกา หลายแบรนด์ดังมีสต๊อกสินค้าใหม่ที่มากกว่าร้านในฮ่องกงและสิงค์โปร์"

ระหว่างวิกฤติโควิด 2 ปี ร้านค้ากลุ่มนี้ในสยามพารากอนและไอคอนสยาม สร้างยอดขายโดดเด่นและเติบโตสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โดยมีปัจจัยมาจากลักชัวรีแบรนด์หลายรายได้ขยายพื้นที่ร้าน การเปิด “Pop-up Store” เพื่อขายลิมิเต็ดคอลเลคชั่น ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทยเกินความคาดหมาย! ปัจจุบันมียอดจองพื้นที่เปิด Pop-up Store ทุกเดือนและเต็มจนถึงปี 2566 

สยามพิวรรธน์ ยังร่วมกับธนาคารพาณิชย์และพันธมิตร เช่น สายการบิน โรงพยาบาล และบริษัทประกันภัย เพื่อช่วยบริหารจัดการลูกค้ากำลังซื้อสูงให้ได้สิทธิประโยชน์ที่เงินซื้อไม่ได้! ด้วยประสบการณ์เหนือความคาดหมาย พร้อมมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาสร้างสีสัน เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าใช้บริการ

สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามสร้างฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยล้วน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 43% มากสุดเป็นประวัติการณ์นับจากเปิดโครงการ 3 ปี ประการสำคัญยอดขายเติบโตทุกกลุ่มสินค้าและบริการ เพราะมีกำลังซื้อจากสมาชิกหรือลูกค้าประจำซึ่งคิดเป็น 40% ของยอดขาย

“แสดงให้เห็นว่าแม้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ไอคอนสยามมีฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยจำนวนมาก เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาใช้สอยเป็นประจำ"

ปี 2565 ลูกค้าไอคอนสยามที่เป็นสมาชิก VIZ Card จะได้ใช้ VIZ Coin ผ่าน ONESIAM SuperApp คาดกระตุ้นการใช้จ่ายเติบโต 15-20% ทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นตลาด เช่น ศูนย์ประชุมและการแสดง ทรู ไอคอน ฮอลล์ มียอดจองจัดงานแล้วทั้งปี รถไฟฟ้าสายสีทองหนุนการเดินทางมาสะดวก และหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น กิจการของไอคอนสยามจะยิ่งเติบโตก้าวกระโดด

สำหรับ “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ” อยู่ระหว่างศึกษาแผนขยายพื้นที่เฟส 2 รองรับลักชัวรีแบรนด์ต้องการเปิดร้านเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก

“การเติบโตท่ามกลางวิกฤติสะท้อนความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ที่มีฐานลูกค้าที่ทรงพลังกลุ่มคนกำลังซื้อสูง ควบคู่กลยุทธ์การตลาด การสร้างแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp เป็นกลไกสำคัญกระตุ้นยอดจับจ่าย ขยายฐาน GEN Y และ Z” 

ปีนี้กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มสมาชิกเติบโตกว่า 30% พร้อมมุ่งขยายระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลก ผ่าน ONESIAM SuperApp เพื่อขยายฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงกว้างขวางยิ่งขึ้น