ส.อ.ท. ‘ส่งซิก’ ขยับราคาสินค้า 3-6 เดือน

ส.อ.ท. ระบุ สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากผลพวงของสงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่างๆในทุกอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เกรียงไกร เธียรนุกุล ระบุ สถานการณ์ราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากผลพวงของสงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่างๆในทุกอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมจะมีปริมาณสินค้าในสต็อกไม่เท่ากัน บางรายอาจมีสต็อก 3 เดือน บางรายอาจมีสต็อก 6 เดือน ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าว คาดว่าผู้ผลิตจะทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วง 3-6 เดือนนับจากนี้ โดยในส่วนของปุ๋ยเคมี จะขอปรับขึ้นราคาภายใน 1-2 เดือนนี้ ขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจยังต้องขอปรับขึ้นราคา เพราะราคาข้าวสาลีซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญปรับตัวสูงขึ้น

 หากรัสเซียยังโดนคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกต่อไป อาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน้ำมันดิบที่สูงขึ้นทุก 1 ดอลลาร์/บาร์เรล จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับเพิ่มขึ้น 25 สตางค์/ลิตร ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะแตะ 180-200- 300 ดอลลาร์/บาร์เรล หากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลจะมีปัญหาในการหาเงินมาตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร

            ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตและภาคขนส่ง โดยเฉพาะการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องมาถึงอัตราค่าไฟฟ้า ตลอดจนค่าครองชีพอื่นๆจะต้องปรับตัวสูงขึ้นตาม จึงถึงเวลาที่ต้องผลักดันอย่างจริงจังในการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น เพื่อลดสัดส่วนการนำเข้าก๊าซและน้ำมัน