AAV คาดว่าจะยังคงขาดทุนในปี 2565F (8 มี.ค. 65)

AAV คาดว่าจะยังคงขาดทุนในปี 2565F (8 มี.ค. 65)

หลังจากที่ COVID-19 ระบาดทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสองปี AAV เป็นหนึ่งในสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยมีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 4.76 และ 6.65 พันล้านบาทในปี 2563 และ 2564 ตามลำดับ

โดยปัจจัยลบที่สำคัญได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ (เหลือ 90.5 ล้านราย และ 110 ล้านรายในปี 2563-64 จาก 172 ล้านรายในปี 2562) และต่างชาติ (เหลือเพียง 6.7 ล้านราย และ 0.5 ล้านรายในปี 2563-2564 จาก 39.9 ล้านรายในปี 2562) ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารของ AAV ลดลงเหลือเพียง 9.49 ล้านที่นั่ง และ 2.93 ล้านที่นั่งในปี 2563-2564 จาก 22.15 ล้านที่นั่งในปี 2562 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้วหลังจากที่ COVID-19 ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดไปแล้วใน 3Q64 โดยมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง และรัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการคุมโรคระบาดลง เราคาดว่ารัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ลงอีกอย่างแน่นอน แม้ว่าสายพันธุ์ Omicron จะระบาด ดังนั้น เราจึงคิดว่านักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างชาติจะช่วยหนุนให้ AAV ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากที่ผ่านช่วงที่ภาวะธุรกิจเลวร้ายที่สุดไปแล้วในช่วงสองปีที่ผ่านมา

 

AAV ถือหุ้น 100% ใน TAA

บริษัทได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นโดยเข้าถือหุ้น 100% ใน Thai AirAsia (TAA) ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มกราคม โครงสร้างการถือหุ้นของ AAV ประกอบด้วย AAA (45.1%), คุณธรรศพลฐ์ (20.1%) และนักลงทุนรายอื่น (34.8%) นอกจากนี้ AAV ยังได้เงินทุนใหม่เข้ามา 1.4 หมื่นล้านบาทจากการขายหุ้น 8,000 ล้านหุ้น ผ่าน i) private placement (5,028.57 ล้านหุ้น) ii) หุ้นกู้แปลงสภาพ (1,257.14 ล้านหุ้น) และ iii) right offering (1,714.28 ล้านหุ้น) ทั้งนี้ เรามองว่าการปรับโครงสร้างทุนเป็นพัฒนาการด้านบวกของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ AAV สามารถผ่านพ้นวิกฤติในอีกสองสามปีข้างหน้าไปได้

 

 

ปรับประมาณการปี FY65-66F

เราปรับสมมติฐานผู้โดยสารปี FY65-66F เป็น 12.3 ล้านที่นั่ง และ 20.2 ล้านที่นั่ง (จากเดิม 7.5 ล้านที่นั่งและ 8.6 ล้านที่นั่ง) เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าของบริษัท ทั้งนี้ จากการที่บริษัทน่าจะปรับขึ้นค่าโดยสารเฉลี่ย เราจึงปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565F เป็น 4.0% (จากเดิม 3.0%) และปี 2566F เป็น 8.0% (จากเดิม 4.0%) นอกจากนี้ เรายังปรับสัดส่วน SG&A/ยอดขายปี 2565F เป็น 10.0% (จากเดิม 13.0%) และปี 2566F เป็น 9.0% (จากเดิม 8.5%) เพื่อสะท้อนถึงการปรับประมาณการยอดขาย ดังนั้น เราจึงคาดว่า AAV จะยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 1.91 พันล้านบาทในปี 2565F (จากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 2.18 พันล้านบาท) และจะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 73 ล้านบาทในปี 2566F (จากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 684 ล้านบาท)

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำถือ AAV โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ที่ 2.55 บาท (อิงจาก P/BV ที่ 1.5x,+1.5 SD) จากเดิม 2.72 บาท (อิงจาก P/BV เฉลี่ยห้าปีก่อนปรับโครงสร้างทุน)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจถดถอย, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองของไทยรอบใหม่ หรือ เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่