อสมท มีกำไรครั้งแรกรอบ 5 ปี สานภารกิจทำรายได้โตต่อปี 65

รศ.เกษมศานต์  โชติชาครพันธุ์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 สามารถพลิกกลับมามีกำไรเป็นปีแรกในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2558 และเป็นกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ต่อจากไตรมาสที่ผ่านมา 

สำหรับผลกำไรปี 2564 อยู่ที่ 164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในหารายได้ที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงและบริหารต้นทุนที่ดำเนินการต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไปและเห็นผลค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,584 ล้านบาท จากปัจจัยการหารายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโทรทัศน์ ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ รวมถึงธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล

ส่วนด้านค่าใช้จ่ายรวมมีมูลค่า  1,384 ล้านบาท ลดลงถึง 61% เทียบกับ ปี 2563 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

 ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกแต่ละธุรกิจ เป็นดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์หรือทีวีดิจิทัล มีรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้โฆษณา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการพัฒนาผังรายการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด The Year of Trusted News ด้วยการเพิ่มจำนวนชั่วโมงข่าวและสาระ พร้อมร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตรายการ คัดสรรคอนเทนท์ลงผังรายการ ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ส่วนธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งรายได้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวมถึงรายได้จากการเป็นผู้จัดจำหน่ายคอนเทนท์ในแพลตฟอร์มอื่นทั้งไทยและต่างประเทศ หรือContent Business และส่วนแบ่งรายได้จากการขายสินค้าในธุรกิจทีวีโฮมชอปปิงในชื่อ “Shop Mania”

สำหรับธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล มีผู้ใช้บริการช่องสาธารณะรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย คือ ช่อง T Sports 7 (หมายเลข 7) ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เป็นผู้ดำเนินการออกอากาศ ผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลของ บมจ. อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition: SD) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564

ส่วนการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัท ล่าสุด ได้ร่วมประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ระบบเอฟเอ็ม(คลื่นวิทยุ) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งอสมทเป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม จำนวน 47 คลื่น แบ่งเป็น พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 6 คลื่น และพื้นที่ภูมิภาค จำนวน 41 คลื่น 

ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) รับรองผลการประมูลและประกาศชื่อผู้ชนะการประมูลแล้ว อสมท จะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ประเภทธุรกิจระดับชาติ ที่มีจำนวนคลื่นและพื้นที่ครอบคลุมมากที่สุด ถือครองคลื่นความถี่วิทยุครอบคลุมทั่วประเทศ สูงสุด 47 คลื่น 

แนวทางหลังจากนั้นบริษัทจะเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ฟังและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อตอกย้ำถึงจุดแข็งของธุรกิจวิทยุที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนปรับโครงสร้างและรูปแบบการบริหารจัดการ (Refreshing Organization Structure & Management) การจัดผังรายการให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย (Refreshing Program) การจัดสรรช่วงเวลาออกอากาศ (Broadcasting Time Allocation) ระหว่างสถานีวิทยุแต่ละแห่งกับการออกอากาศของเครือข่ายส่วนกลาง ตลอดจนผลักดันคู่ขนานระหว่างการออกอากาศในรูปแบบเดิมกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยจะเริ่มต้นใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ในวันที่ 4 เมษายน 2565