JMART ผลประกอบการ 4Q64 & 2564: กำไรจากธุรกิจหลักทำสถิติใหม่

JMART ผลประกอบการ 4Q64 & 2564: กำไรจากธุรกิจหลักทำสถิติใหม่

กำไรสุทธิของ JMART ใน 4Q64 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 480% QoQ และ YoY เนื่องจากมีการบันทึกกำไรจากการลงทุนที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก้อนใหญ่ประมาณ 1.2 พันล้านบาทจากการลงทุนใน SINGER และมีกำไรจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ 60 ล้านบาทจาก Jas Asset

ทั้งนี้ กำไรสุทธิในปี 2564 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+201%) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
กำไร 4Q64 จะอยู่ที่ 402 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45% QoQ และ 48% YoY ใน 4Q21 และเพิ่มขึ้น 54% ใน
ปี 2564

 

บันทึกกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจาก SINGER และ Jas asset

รายการดังกล่าวเป็นกำไรทางบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวตีมูลค่าเงินลงทุนใน SINGER หลังจากมีการ
เพิ่มทุนและสัดส่วนการหุ้นใน SINGER เปลี่ยนเป็น 26% (จาก 34.6% ก่อนเพิ่มทุน) จากการที่ SINGER
มีการขายหุ้นเพิ่มทุนในรูปเฉพาะเจาะจง (PP) ซึ่งตามมาตรฐานบัญชีให้ JMART มีการปรับมูลค่า
เหมาะสมของเงินลงทุนส่วนที่ยังถือยู่ใน SINGER ซึ่งมีปรับมูลค่าแล้วทำให้มูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้น 1.2
พันล้านบาท และ JMART บันทึกเป็นกำไรใน 4Q64 ในขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของ Jas Asset ก็
ดีขึ้นอย่างมากใน 4Q64 จากการบันทึกกำไรพิเศษในโครงการที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 4Q64

 

การดำเนินงานของ J-mobile เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

J-Mobile (JMART ถือหุ้น 100%) เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 โดยรายได้เพิ่มขึ้น 12% ในขณะที่
กำไรโตถึง 139% เป็น 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% ของกำไรสุทธิของ JMART ในปี 2564 (จากเพียง
9% ในปี 2563) โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4Q64 รายได้ของ J-Mobile เพิ่มขึ้นถึง 60% QoQ และ 17% YoY
โดยมีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท (+50% QoQ and YoY)

 

 

กำไรของกิจการที่อยู่ภายใต้บริษัท holding ทำสถิติสูงสุดใหม่

กำไรจากธุรกิจหลักในบริษัทลูกที่ JMART ถือหุ้นอยู่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกำไรของทั้ง JMT, SINGER, J-Mobile และ Jas Asset เร่งตัวขึ้นใน 4Q64 หนุนให้กำไรจากธุรกิจหลักของ JMART ในปี 2564 โตถึง 54% โดย 60% ของกำไรมาจาก JMT, 19% มาจาก SINGER, 16% มาจาก J-Mobile และ 6% มาจาก Jas Asset (คำนวณบนกำไรปกติ)

 

Valuation & Action

เราคาดว่ากำไรของบริษัทหลักที่อยู่ภายใต้ JMART จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565 โดย JMT ยังคงเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจ AMC ส่วน SINGER เป็นผู้นำตลาดในด้านการปล่อยกู้สินเชื่อผู้บริโภค และคาดว่า J-Mobile จะเป็นบริษัทแห่งใหม่ที่โดดเด่นในปี 2565 ซึ่งจะทำให้ profile การเติบโตของกำไร JMART แข็งแกร่งต่อเนื่อง และหนุนให้มูลค่าหุ้น JMART มี premium ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 65 บาท (P/E ที่ 40x)