Investment Strategy (25 กุมภาพันธ์ 2565)

Investment Strategy (25 กุมภาพันธ์ 2565)

การโจมตีของรัสเซียในพื้นที่ยูเครนทำให้เกิดความผันผวนในตลาดทั่วโลก ซึ่งหมายถึงสินทรัพย์เสี่ยงจะได้รับผลกระทบมาก อาจคาดได้ว่ามีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทอง และพันธบัตรสหรัฐฯมากขึ้นในตอนนี้

แม้อาจยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบในตอนนี้ แต่เราเชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังแข็งแกร่ง และสามารถรับความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศในระดับนี้ได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์อาจเลวร้ายอย่างมากหากมีการบุกเต็มรูปแบบในยูเครน และตะวันตกตัดสินใจใช้กำลังตอบโต้

 

ตอนนี้ยังเป็นแค่ความผันผวน …

จากการโจมตีในยูเครนที่ยังอยู่ในพื้นที่จำกัด ผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกจึงยังไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่ดีแม้จะมีการผ่อนลงบ้าง โดย global PMI ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 51.4% ในม.ค. แม้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและความติดขัดด้านโลจิสติกส์จะเป็นปัจจัยกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระโลก แต่ก็อาจใช้เวลาสักระยะในก่อนจะมีผลต่อแนวโน้มการเติบโต ซึ่งสะท้อนว่าผลกระทบในปัจจุบันคือ ความผันผวนของตลาดและความกังวล       

 

 

…ใครกระพริบตาก่อน?

เราเชื่อว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะรับความเสี่ยงที่ระดับนี้ได้ระยะหนึ่ง แต่คำถามคือรัสเซียจะรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการคว่ำบาตรของประเทศตะวันตกได้นานเท่าไหร่ ปัจจุบันการคว่ำบาตรยังเป็นในรูปแบบการเงิน เช่น ห้ามรัสเซียใช้สกุลเงินดอลลาห์ และไม่ให้ทำรายการกับพันธบัตรรัฐบาล และอาจมีการคว่ำบาตรด้านพลังงานเพิ่มเติม เนื่องจากยุโรปพยายามหาแหล่งซัพพลายก๊าซจากแหล่งอื่น เราจึงคาดว่าสภาพเศรษฐกิจและการเงินในภาพรวมของรัสเซียจะเป็นปัจจัยสำคัญบ่งชี้ระยะเวลาของความขัดแย้ง ซึ่งเศรษฐกิจไดรับผลกระทบจากการระบาด เนื่องจากมีการหดตัว -3% ในปี 2020 โดยรัฐบาลก่อหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20% ของ GDP (จาก 13%) ซึ่งหมายถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอาจสร้างความเสียหายให้ทางเศรษฐกิได้ กมองในปี 2014 เศรษฐกิจหดตัว 1.6% (2014-15) ส่วนเงินทุนสำรองลดลงจาก 22% ของ GDP เป็น 16%

 

ผลกระทบต่อไทยจำกัด

หากไม่รวมผลที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้น ผลกระทบในภาพรวมต่อเศรษฐกิจไทยยังอยู่ที่ราคาพลังงานเป็นหลัก ซึ่งเสมือนเป็นภาษีบนระบบเศรษฐกิจ อย่างที่เรากล่าวไว้ในบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันที่เพิมขึ้น 1% โดยเฉลี่ยจะทำให้ GDP เติบโตลดลง 0.28% และทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.3% เราประเมินว่าผลกระทบจะมีนัยสำคัญเมื่อราคาน้ำมันสูงกว่า US$110bbl ระยะเวลาหนึ่ง ส่วนในแง่ผลกระทบทางตรง การส่งออกไปรัสเซียคิดเป็นเพียง 0.5% ของภาคการส่งออกไทย