ฟื้นตัวตามรอบบ้าน (25 กุมภาพันธ์ 2565)

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมินว่า SET รีบาวนด์ขึ้นแนวต้าน 1,675 / 1,680 จุด ตาม sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นรอบบ้านฟื้นตัวขึ้นหลังวานนี้ทรุดตัวลงแรง ประกอบกับ GDP q4/64 ของสหรัฐฯขยายตัวสูงถึง 7.0% อย่างไรก็ตามความกังวลสถานการณ์ยูเครนที่ตึงเครียดหลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงยอด Covid-19 ในประเทศที่พุ่งขึ้นเร็วจะเป็นแรงกดดันดัชนีให้สลับอ่อนตัวลง 

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

           KBANK BBL TTB KTB SCB BLA ได้ประโยชน์แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

           PTTEP TOP  SPRC BCP ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง

           กลุ่ม Defensive stock  BDMS INTUCH ADVANC HTC 

 

หุ้นแนะนำวันนี้

JMT (67 IAA Consensus 77) แจ้งกำไรสุทธิ 4Q21 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยมีกำไรสุทธิ 477 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36%qoq และ 44%yoy และสูงกว่าที่ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะมีกำไรเพียง 410 ล้านบาท

HMPRO (15.117แจ้งกำไรสุทธิ 4Q21 ที่ 1.7 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 104%qoq และ 15%yoy และดีกว่าที่เราคาดไว้ 13% แนวโน้ม 1Q22 ดีต่อเนื่องจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ ภาครัฐกระตุ้นกำลังซื้อผ่าน มาตรการช้อปดีมีนคืน

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

ANAN, BGRIM, BH, CPALL, LH, OSP, PLANB, QH, TACC, TU

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) น้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเล็กน้อยหลังสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองยุทธศาสตร์: ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวผันผวนโดยช่วงแรกราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งทะลุระดับ 100$/bbl รับข่าวรัสเซียบุกโจมตียูเครน แต่ท้ายตลาดราคาน้ำมันดิบมีแรงขายทำกำไรและย่อตัวลงอย่างรวดเร็วหลัง ปธน. โจ ไบเดน ประกาศว่าจะระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาซัพพลายน้ำมันตึงตัว

(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข PCE Price Index จับสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐ: สหรัฐจะประกาศตัวเลขดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) เดือน ม.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟด ดังนั้นหากตัวเลขดังกล่าวยังพุ่งสูงและมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดันตลาด เบื้องต้น Consensus คาด ไว้ที่ 5.9% ใกล้เคียงกับเดือน ธ.ค.ที่ 5.8%

(+/-) สัปดาห์หน้าติดตามประธานเฟดแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อรัฐสภาสหรัฐ: นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2-3 มี.ค. เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นักลงทุนจะใช้จับสัญญาณถึงแนวโน้มในการดำเนินนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลด QE ของสหรัฐในปีนี้