อสังหาฯ ประคองตัวรอศก.ฟื้นปี66ชงรัฐออก5มาตรการกระตุ้น

อสังหาฯ ประคองตัวรอศก.ฟื้นปี66ชงรัฐออก5มาตรการกระตุ้น

ธุรกิจอสังหาฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายอย่าง บวกกับยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังในปีนี้ ดังนั้นในมุมของผู้ประกอบการ ที่ความจำเป็นจะต้องเปิดเกมรุก ขณะเดียวกันก็ต้องระวังหลัง เตรียมพร้อมตั้งรับ กับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น!!

อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย  เปิดเผยว่า สถานการณ์อสังหาฯปีนี้ แนวทางที่ดีที่สุดคือ การประคับประคองตัวให้รอดจนถึงปี 2566 ที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว เพราะปัจจุบันมีปัจจัยลบรอบด้านที่ไม่สามารถควบคุมได้ไม่ว่าจะเป็นโควิด สถานการณ์รัสเซียกับยูเครน หรือปัจจัยลบในประเทศ ทั้งเศรษฐกิจรากหญ้า เอสเอ็มอีที่เปราะบาง กำลังซื้อที่อ่อนแอลง กำลังซื้อจากต่างชาติที่หายไป หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ธนาคารเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ หรือเงินเฟ้อ

ส่วนปัจจัยบวกที่เห็นคือ การพยามยามกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  โควิด โอมิครอน รุนแรงน้อยกว่าปี 2564 อัตราดอกเบี้ยต่ำ การเร่งระบายสต็อกจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง 0.01% ในปีนี้

แต่อย่างไรก็ตามสมาคมฯ มีข้อเสนอให้รัฐสนับสนุนมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 ข้อ ได้แก่ 1. เร่งการออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa) 2 .ฟรีค่าธรรมเนียมโอนบ้านหลังแรกอย่างถาวร 3.โครงการบ้านดีมีดาวน์ รัฐช่วยให้มีบ้าน รัฐยังได้สุทธิ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ปกติ 4.เสนอธนาคารสนับสนุนให้คอนโดเป็นสินค้าเพื่อการออมและลงทุน เป็นการเปิดมุมมองใหม่ และ 5. ตั้ง Mortgage Insurance เพื่อทำให้ผู้ขอสินเชื่อกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น

ที่น่าสนใจปีนี้อ คอนโดระดับราคา 1 ล้านบาท ที่มีความต้องการสูง และคอนโดโลว์ไรส์เข้ามาตอบโจทย์การลงทุน คืนทุนเร็ว คอนโดสมาร์ทไลฟ์ สมาร์ทโฮมตอบ  โจทย์ความต้องการลูกค้า ทำให้ภาพรวมโดปีนี้น่าจะโตขึ้น 5-10% หลังจากที่ปี 2564 ที่ผ่านมาตติดลบ 18-20%

“ทุกคนต้องปรับตัวให้เร็ว เพราะมีสต็อกเก่า มีที่ติดมือ หนี้สินติดตัว ยกตัวอย่างริชี่เพลซจากเดิมทำคอนโด 90% ต้องปรับตัวมาทำแนวราบ เพื่อรองรับกับความต้องการตลาด แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด”

มีศักดิ์ ชุณหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย มองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง โดยธุรกิจอสังหาฯ ที่สามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจบริการถือเป็น “จุดแข็ง” เพราะต่างประเทศมองว่าไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ อยากจะมาใช้ชีวิต หากสามารถดึงคนจากทั่วโลกให้เข้ามาอยู่ จับจ่ายใช้สอยในระยะยาว ช่วยกระจายรายได้ในวงกว้าง ไม่เฉพาะแค่อสังหาฯ แต่ยังรวมถึงธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะบริการทางการแพทย์ ที่ถือเป็นจุดเด่นของไทย

“ไทยมีภูมิอากาศที่สามารถอยู่อาศัยได้ทั้งปี มีของกินของใช้ราคาถูก มีความปลอดภัย ค่าครองชีพต่ำ มีความเป็นเลิศในการบริการ โดยเฉพาะบริการทางการแพทย์ และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และอยู่ท่ามกลางประเทศที่เกิดใหม่ (CLMV)"

ทั้งหมดนี้เป็นโอกาสดีในการดึงดูดชาวต่างชาติ เข้ามาซื้ออสังหาให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เข้ามาฟื้นฟูประเทศ

วสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ปีนี้ปัญหาหลักที่เป็น"ภาระใหญ่"ของอสังหาฯ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างโรงแรมคือการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% 

ทั้งนี้สถานการณ์ทั้งหมดมองว่าผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว โดยมี 5 ประเด็นสำคัญได้แก่ 

1.การรักษาสภาพคล่องเป็นเรื่องที่สำคัญสุดโดยเฉพาะบริษัทนอกตลาด ฉะนั้นต้องให้ความสำคัญกับโครงการที่ทำเงิน ขนาดโครงการมีผลต่อสภาพคล่อง ต้องสร้างให้สมดุลกับยอดขายเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมากที่สุด 

2.การขายผ่านทุกช่องทางมีความสำคัญ แต่ต้องระมัดระวังการสื่อสาร โดยเฉพาะช่องทางโซเซียลมีเดีย 

3.การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า บางครั้งมีบางกรณีที่ต้องระมัดระวัง เพราะมีกฎหมายบางอย่างที่ไม่เอื้อกับผู้ประกอบการในการทำงาน 

4. การบริหารบุคคลกรในองค์กรหลายเจนเนอเรชั่นต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ และ 

5. การบริหารงานก่อสร้างต้องระมัดวัง มิเช่นนั้นจะโดนปรับจากลูกค้าหากไม่สามารถทำได้ตามสัญญา