ความตึงเครียดในยูเครนกดดันตลาด (18 ก.พ. 65)

ความตึงเครียดในยูเครนกดดันตลาด (18 ก.พ. 65)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีสามารถปรับตัวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ดัชนีเปิดโดดช่วงเช้าราว +8 จุด หลังจากนั้นแกว่งตัวไซด์เวย์ จากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มพลังงาน และไอซีที

ตลาดคลายความกังวลหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ชี้ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,711.58 จุด +10.13 จุด +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 101,538 ลบ.ต่างชาติ +6,315.02 ลบ. TFEX +3,530 สัญญา ตราสารหนี้ -989.72 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ CEO บริษัทโมเดอร์นาเผยว่าการระบาดของโควิด-19 อาจมาสู่โค้งสุดท้ายแล้ว "แม้จะมีโอกาส 80% ที่ไวรัส โอมิครอนจะกลายพันธุ์หรือเกิดโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ แต่จะมีความรุนแรงน้อยลงเรื่อย ๆ"
+ สำนักงานคณะกรรมการเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC ขับเคลื่อนแผนการลงทุนระยะ 2 (ปี 2565-2569) ตั้งเป้าหมายให้เกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท หรือปีละ 5 แสนล้านบาทต่อเนื่อง 5 ปี มุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่
+ นลท.ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยและพันธบัตรไทยในช่วง 1 เดือนครึ่งตั้งแต่ต้นปีเกือบ 2 แสนล้านบาท ยอดถือครองพันธบัตรไทย 1.15 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยคิดเป็นสัดส่วน 7.67% ของยอดคงค้างพันธบัตรไทยโดยรวมหนุนเงินบาทแตะ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ หรือแข็งค่าแล้ว 3.8%YTD แข็งค่าที่สุดในรอบ 7 เดือนและแข็งค่าที่สุดในเอเชีย

 

ปัจจัยลบ  

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 18,066 ราย ATK 9,956 ราย เสียชีวิต 27 ราย รักษาหาย 12,511 ราย
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 622.24 จุด -1.78% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงในวันเดียวแรงที่สุดในปีนี้ เนื่องจากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากจนท.ระดับสูงของสหรัฐยืนยันว่ารัสเซียพร้อมบุกโจมตียูเครนทุกขณะ
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.9 ดอลลาร์ -2% ปิดที่ 91.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
 

- ฮ่องกงเตรียมระดมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั่วทั้งเกาะ สกัดจำนวนผู้ติดเชื้อแบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ หลังเผชิญปัญหาในการควบคุมการระบาดระลอกที่รุนแรงที่สุด
- กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกที่มีรัสเซียหนุน กล่าวหาว่ากองทัพยูเครนเปิดฉากยิงในดินแดนกลุ่มของตนถึง 4 ครั้งภายใน 24 ชม.ที่ผ่านมา แต่กองทัพยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหาของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยโต้แย้งว่า ฝั่งกลุ่มกบฏเป็นฝ่ายที่ระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารของยูเครน
- ปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐยืนยันว่าไม่มีแผนสนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครน แม้กังวลว่ารัสเซียอาจโจมตียูเครนในไม่ช้า
- สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 4.1% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.638 ล้านยูนิต ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และสภาพอากาศหนาวเย็น
- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 248,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 219,000 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก จากวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะบุกโจมตียูเครน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,700-1,715 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC
• หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT TOP PTTGC
• มาตรการอุดหนุน EV : EA NEX BYD GPSC NDR

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                           PTT (Bloomberg Consensus 49.25)
                                                   รายงานกำไรดีกว่าคาด 9%

 

ความตึงเครียดในยูเครนกดดันตลาด (18 ก.พ. 65)

 

•รายงานกำไร 27,544 ลบ. +110%YoY และ 17%QoQ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจผลิตและสำรวจที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน และธุรกิจโรงกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้นตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจปิโตรเคมีอ่อนตัวลงตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ และธุรกิจก๊าซธรรมชาติปรับตัวลงตามปริมาณขายก๊าซฯ ที่ลดลงเนื่องจากการใช้ไฟฟ้าลดลง

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 1Q65 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นและค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับ 6-7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนุนผลประกอบการธุรกิจผลิตและสำรวจและธุรกิจโรงกลั่น เราจึงคงคาแนะนำ ซื้อ

 

หุ้นมีข่าว

(+) PTT เตรียมซื้อหุ้น GPSC 10.78% จาก TOP ราว 2.24 หมื่นลบ.ปรับโครงสร้าง Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์

ประเด็นบวก TOP ทำให้มีกำไรพิเศษจากการขาย GPSC และลดความเสี่ยงในการเพิ่มทุนเพื่อลงทุนโครงการ CPF ที่ระยองและอินโดนีเซีย(ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTGC (Bloomberg Consensus 69.50 บาท) มองปริมาณขายปี 2565 ใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.65 แสนล้านบาท หลังปีนี้มีแผนซ่อมบำรุงหลายโครงการ ปูพรมบุ๊กรายได้-กำไร โครงการ Allnex เข้าเต็มปี กว่า 2 พันล้านยูโร หรือประมาณ 7.3 หมื่นล้านบาท แย้มมีแผนออกหุ้นกู้เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ระดมทุนต่อยอดธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 16.95 บาท) แผนใหญ่ 5 ปี ผลิตพุ่งเท่าตัวเกิน 2,000 MW งบสูง 9.5 หมื่นล้านบาท ปั้นธุรกิจใหม่ สถานีชาร์จอีวี-ซื้อขายคาร์บอนเครดิต-แบตเตอรี และสมาร์ทอินฟราสตรัคเจอร์ ลั่นปีนี้จะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 100 MW จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,100 MW ส่วนรายได้เติบโต 25% จากปีก่อน ขณะที่การขายโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ทำให้มีกำไรเข้ามา 1,600 ล้านบาท รับรู้ทันที (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 39.00 บาท) ประกาศเข้าลงทุนใน 3 บริษัท ใช้เงินลงทุนรวม 99.5 ล้านบาท ร่วม NRF-ก้อง อายุน้อยร้อยล้าน รุกธุรกิจ MLM ชี้เป็นการเสริมช่องทางขายเพิ่ม เตรียมนำจุดขนส่งนับหมื่นเป็นสาขา พร้อมเดินหน้าร่วมตระกูลพูลวรลักษณ์-วู๊ดดี้ ขยายธุรกิจล็อกเกอร์ ให้ครอบคลุมทุกระดับ ลั่นเดินหน้าขยายอีโคซิสเต็ม จับตาประกาศข่าวดีอีกเร็วๆ นี้ (ที่มา ทันหุ้น)