Selective buy (วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565)

Selective buy (วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565)

ตลาดหุ้นเมื่อวันอังคาร SET Index พุ่งแรง 17 จุด รับข่าวกองกำลังทหารรัสเซียเริ่มทยอยถอนกำลังจากแนวชายแดนของยูเครน และ ครม. อนุมัติลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์และแบตเตอร์รี่ไฟฟ้า 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมินว่า SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,708 - 1,710 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามแรงหนุนรายงานการประชุม FED บ่งชี้ว่าอาจไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบรวดเร็วและรุนแรงซึ่งเป็นบวกต่อทิศทาง Fund flow รวมถึงแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 อย่างไรก็ตามสถานกาณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังมีความไม่แน่นอนส่งผลให้ภาวะตลาดมีความผันผวน

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

           นโยบายสนับสนุนรถ EV  EA GPSC AMATA  WHA AH STANLY

           กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้น  BBL KBANK KTB SCB TTB BLA THREL

           หุ้นงบ Q4/21F เติบโต IVL SPRC GULF BANPU TU CPF SPALI ORI WHA AMATA HMPRO CPN CRC BLA  NER ITEL XO ASK UBE FORTH TH SNNP

 

หุ้นแนะนำวันนี้

TOP (53.5 63 ประกาศงบ 4Q21 มีกำไรสุทธิ 5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 144% yoy แต่ละลง 29%yoy เป็นเพราะปีที่ผ่านมา TOP มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนใน GPSC ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นเด่นเมื่อเทียบกับ qoq มาจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.4$/bbl จาก 1.6$/bbl ใน 3Q21, TOP ยังจ่ายปันผล 2 บาทต่อหุ้น XD 3 มี.ค. 65

AMATA (22.3 ซื้อ/เป้า 24.50) ได้ Sentiment บวก ครม. อนุมัติมาตรการสนับสนุนการใช้ EV Car คาดหนุนด้าน EV Car เพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อแนวโน้มยอดขายที่ดินของ AMATA ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากมาตรการเปิดรับชาวต่างชาติแบบ Test and Go ดึงนักธุรกิจและนักลงทุนเข้าไทยช่วยเพิ่มยอดขายที่ดิน

บทวิเคราะห์วันนี้

AH, TOP, OR, AUTO SECTOR, IE SECTOR

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) เหตุการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังไม่แน่นอนหลัง นาโต้ระบุรัสเซียยังเสริมทหารเข้ามาอย่างต่อเนื่อง: เมื่อวันอังคารตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นรับข่าวรัสเซียทยอยถอนกำลังทหารออกจากชายแดนยูเครนแล้ว อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่นอนหลังจากล่าสุด นาโต้ ระบุว่ารัสเซียยังเสริมกำลังทหารเข้ามาตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับ ปธน. โจ ไบเดนของสหรัฐระบุดว่ารัสเซียมีกองกำลังทหารตามแนวชายแดนของยูเครนมากกว่า 150,000 นาย

(+/-) FED Minutes ความเห็นของคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ไม่ได้แรงอย่างที่กังวล: เดิมตลาดคาดว่าคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้เฟดใช้ยาแรงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ อาทิ การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% แต่จากรายงานการประชุมคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าเฟดควรจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลในการประชุมแต่ละครั้ง (ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้งในการประชุม)

(+) ครม.มีมติให้ปรับลดภาษีสรรสามิตน้ำมันดีเซล และเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV Car: เมื่อวันอังคาร ครม.มีมติให้ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน (ถืง 20 พ.ค. 65) และ ครม. ยังเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ EV Car ครอบคลุมทั้งรถยนต์ กระบะ และรถจักยานยนต์ ซึ่งมีทั้งมาตรการภาษี อาทิ ลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต และมีเงินอุดหนุนให้กับผู้ซื้อ 70,000-150,000 บาทต่อคันสำหรับกระบะและรถยนต์ และ 18,000 บาทต่อคัน สำหรับรถจักรยานยนต์