วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.พ. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.พ. 65)

เวสต์เทกซัสและเบรนท์พุ่งสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังความกังวลรัสเซียบุกยูเครน

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส และเบรนท์ปรับขึ้น หลังตลาดกังวลความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน เนื่องจากสหรัฐฯ คาดว่ารัสเซียมีแนวโน้มใกล้ที่จะบุกยูเครน ซึ่งอาจจะส่งให้เกิดการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย กดดันอุปทานน้ำมันดิบโลก

+ สำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 65 จะขยายตัว 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 100.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับรายงานประจำเดือน ก.พ. 65 ของกลุ่มโอเปค ที่คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเติบโตสูง จากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 

- หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง สหรัฐฯ พยายามหนทางในการลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันดิบลง  ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ รวมถึงกำลังพิจารณาการระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์เพิ่มเติม 

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในปี 65 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลัง Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 11 ก.พ. 65 เพิ่มขึ้น 22 แท่น แตะระดับ 635 แท่น ประกอบกับผู้ผลิตน้ำมันดิบหลายราย เพิ่มลงทุนมากขึ้นราว 25% ในปี 65 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 
 

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อาทิเช่นในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย 


ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลของมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.68% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.33 ล้านตันในเดือน ธ.ค. 64 
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.พ. 65)