เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งเกินคาด (11 ก.พ. 2565)

เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งเกินคาด (11 ก.พ. 2565)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวสลับบวก-ลบ ตลาดทรงๆตัว โดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นที่ขึ้นมากในช่วงก่อนหน้า มีแรงขายออกมาเป็นส่วนใหญ่

นักลงทุนติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการดาเนินนโยบายการเงินของเฟดต่อไป ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,703.00 จุด -0.16 จุด -0.01% มูลค่าการซื้อขาย 112,335 ลบ.ต่างชาติ +8,461.13 ลบ. TFEX -1,308 สัญญา ตราสารหนี้ +7,348.81 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ +0.3% ปิดที่ 89.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่มีแรงกดดันจากความกังวลว่า FED อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
+ สหภาพยุโรป (EU) มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียนเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทยหรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม ให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของสหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate :EU DCC)
+ ททท. ชี้การท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เชื่อพลิกฟื้นสู่ภาวะปกติในปี 67
+ ก.ล.ต.คาดว่าตลาดหุ้น LiVE Exchange หรือกระดานซื้อขายหุ้นที่ 3 จะเปิดให้บริการได้ภายใน 3Q65 หลัง ก.ล.ต.ออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนของกิจการที่อยู่ในขั้นกำลังพัฒนา เช่น วิสาหกิจขนาดกลาง (SME) หรือวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) มีผลบังคับใช้ ม.ค.65

 

ปัจจัยลบ

- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้เพิ่มขึ้นต่อ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 15,242 ราย ATK 8,268 ราย มีผู้เสียชีวิต 23 ราย รักษาหาย 8,955 ราย
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 526.47 จุด -1.47% กังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์จะผลักดันให้ FED เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ส่งสัญญาณสนับสนุน FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1% ภายในเดือนก.ค.นี้

- สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อพุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค. สูงสุดในรอบ 40 ปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือนธ.ค.
- FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 50% ที่คาดว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. จากเดิมที่เคยให้น้ำหนักเพียง 14%
- ยูเครนเริ่มซ้อมรบตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อตอบโต้การซ้อมรบของรัสเซียในประเทศเบลารุส ซึ่งมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมกำลังทางการทหารของรัสเซียในภูมิภาค
- ไต้หวันประณามจีน ที่สั่งระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากลิทัวเนีย หลังจากลิทัวเนียอนุญาตให้ไต้หวันจัดตั้งสำนักงานผู้แทนภายใต้ชื่อไต้หวันในเดือนพ.ย. 64
- หอการค้าไทยประเมินการใช้จ่าย "วาเลนไทน์-มาฆบูชา" ร่วงเกือบ 20% ต่ำสุดรอบ 15 ปี หลังโอมิครอนทะลุหมื่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ห่วงเศรษฐกิจแย่ลงและหวั่นตกงาน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 4 อยู่ที่ 30.9 เป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากกังวลเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และพลังงาน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ จำาวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังปรับตัวเร่งขึ้นต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,690-1,710 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                     ATP30 - (ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.53 บาท)
                                                              Sector : MAI / Services
                               แนวโน้มกำไร 4Q64 เติบโต YoY, QoQ หนุนกำไรปี 64 พลิกเติบโต 28%

 

•แนวโน้มกำไร 4Q64 เติบโต 33%YoY และ 4% QoQ จากที่มีสัญญาเริ่มบริการลูกค้าใหม่ 2 รายและต่อสัญญาลูกค้าเดิม 1 ราย หนุนคาดการณ์กำไรปี 64 ที่ 36.8 ล้านบาท พลิกเติบโต 28%

•การมีพันธมิตรใหม่ TTTH เข้ามาถือหุ้น 9.5% ตั้งแต่เดือนมี.ค. 64 ช่วยสร้าง synergy ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ และการมุ่งสู่ผู้นำด้าน Smart Mobility ด้วยการนำเทคโนโลยีในการบริการและควบคุมการเดินรถ การนำรถ EV มาให้บริการ

•คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 63-65 ราว 34% ต่อปี โดย ประมาณการรายได้และกำไรในปี 65 อยู่ที่ราว 597 ล้านบาทและ 51.5 ล้านบาท +21%yoy และ 40%yoy

•ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว คงคาแนะนำ“ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 65 ที่ 2.53 บาท

 

หุ้นมีข่าว

(-) SPRC (Bloomberg Consensus 11.45 บาท) ออกแถลงการณ์ยืนยันควบคุมสถานการณ์ฟิล์มน้ำมัน หลังจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.20 น. บริษัทฯ พบฟิล์มน้ำมันประมาณ 5,000 ลิตร ระหว่างการเตรียมการเคลื่อนย้ายท่ออ่อนที่อยู่ใต้ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จากัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง (ที่มาเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์)

(+) AJ (Bloomberg Consensus 23.50 บาท) เดินเกมเมกะเทรนด์ "บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน" มองดีมานด์แพ็กเกจจิ้งเติบโตดี กลุ่มอุปโภค-บริโภค ยังขยายตัว ปักธงปริมาณขายปีนี้เติบโตสองหลัก ลุยสินค้าไฮมาร์จิ้นดันยอด พร้อมขยายกำลังการผลิตฟิล์ม BOPP ช่วงไตรมาส 4/2565 ส่วนการร่วมทุนกลุ่ม SCG คาดเริ่มผลิตไตรมาส 4/2565 ขยายตลาดอาเซียน โบรกมองกำไรปี 2565 เติบโตต่อ มีอัพไซด์จากการร่วมทุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ITEL (Bloomberg Consensus 6.65 บาท) จ่อคลอดกองทรัสต์ดาต้า เซ็นเตอร์ มูลค่าไม่เกิน 750 ล้านบาท คาดบุ๊กรายได้จากการขายสินทรัพย์ช่วงเดือนมีนาคมนี้ บิ๊ก "ณัฐนัย อนันตรัมพร" ชี้นำเงินคืนหนี้-ลุยลงทุน หนุนพื้นฐานสดใส พร้อมปักหมุดปี 2565 รายได้โต 20-30% หลังโครงการรอบุ๊กเพียบ-โครงการใหม่หนุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JMART (Bloomberg Consensus 55.50 บาท) ประกาศจัดตั้ง JayDee Group ดึงพาร์ตเนอร์ ดีลเลอร์ค้าปลีก เครื่องใช้ไฟฟ้า เจาะตลาดหัวเมืองใหญ่ในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทั่วประเทศ เสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม พร้อมดัน JayDee Group เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เดินหน้าสู่เป้าหมายเติบโตแบบ Exponential Growth และหนุนสร้างโอกาส J Curve (ที่มา ทันหุ้น)