ลุ้นทดสอบ 1,667 (วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565)

ลุ้นทดสอบ 1,667 (วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเปิดโดดในช่วงเช้า ราว +11 จุด หลังจากนั้นดัชนียืนในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ในกรอบ +9 ถึง +15 จุด เป็นการปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ

จากแรงซื้อในหุ้น กลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังรฟม. ประกาศผลผู้ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายม่วงใต้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,661.57 จุด +12.94 จุด +0.78% มูลค่าการซื้อขาย 59,440 ลบ.ต่างชาติ +1,301.64 ลบ. TFEX +13,794 สัญญา ตราสารหนี้ -7,486.04 ลบ.


ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 273.38 จุด +0.78% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร นลท.จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ +0.1% ปิดที่ 88.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ นลท.จับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสในวันนี้
+ บริษัทโนวาแวกซ์ (Novavax) ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากเลื่อนการยื่นขออนุมัตินานหลายเดือนเนื่องจากปัญหาด้านการพัฒนาและการผลิต
+ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย หวังว่าการเจรจาในประเด็นยูเครนจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้นซึ่งรวมถึงการทำสงคราม
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.9 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่ง
+ ครม. ไฟเขียวโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65 วงเงินกว่า 500 ลบ.
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,587 ราย ATK 2,649 ราย มีผู้เสียชีวิต 22 ราย รักษาหาย 8,485 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.5 ในเดือนม.ค. ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จากระดับ 57.7 ในเดือนธ.ค.
 

- นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมเยือนยูเครนตามแนวทางด้านการทูตในการขัดขวางการรุกรานของรัสเซียเพื่อส่งสัญญาณเตือนให้รัสเซียถอยออกจากสถานการณ์ที่นำไปสู่ความขัดแย้ง
- รัฐบาลกองทัพเมียนมาประกาศขยายภาวะฉุกเฉินออกไปอย่างเป็นทางการจนถึงวันที่ 31 ก.ค.
- นายจอร์จ โซรอส แสดงความเห็นว่า ปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีน อาจประสบความล้มเหลวในการรั้งตำแหน่งผู้นำจีนและหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ในปีนี้ สวนทางคาดการณ์
- ธปท.เผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจเดือน ม.ค.65 ปรับตัวลดลงเหลือ 47.2 จาก 49.0 ในเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะโรงแรมและร้านอาหาร
- ครม.เผยหลักเกณฑ์ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 คาดคนจนเพิ่มจาก 13.45 ล้านคน เป็น 20 ล้านคน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังแกว่งตัวผันผวนรุนแรงในช่วงสัปดาห์ก่อน โดยเริ่มมีแรงซื้อจากสถาบันในประเทศกลับเข้ามาในหุ้น Big Cap. ขณะที่นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,655-1,667 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 : ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
• หุ้น Value Play : KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                TQM Financials / Insurance
                                          (Bloomberg Consensus 74.63 บาท)

ลุ้นกำไร 4Q64 +YoY +QoQ กำไรปี 64 โตแรง

•ผลประกอบการงวด 4Q64 มีแนวโน้มเติบโตสูง YoY และ QoQ (กำไร 4Q63 190 ลบ. 3Q64 243 ลบ.) และอาจทำ new high อีกเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นและดีล M&A (True Life Broker และ True Extra Broker) ตั้งแต่เดือนก.ย. 64 ทำให้มีการควบรวมงบการเงินเต็มไตรมาส ขณะที่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเคลมประกันโควิดแม้เป็นผู้ริเริ่มแคมเปญเจอ-จ่าย-จบเนื่องจากเป็นเพียงนายหน้าประกัน และมีรายได้จากกรมธรรม์โควิดไม่ถึง 5% ของรายได้รวม Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 886 ลบ. +26%YoY ส่งผลให้คาดการณ์ 4Q64F ราว 220 ลบ. และตัวเลขจริงน่าจะดีกว่าคาดที่ยังไม่รวม upside จากการควบรวมงบการเงิน

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ดีจากธุรกิจประกันจากฐานลูกค้า กลยุทธ์เพิ่มประกันภัยที่อยู่อาศัย การควบรวมงบการเงินเต็มปี Bloomberg Consensus คาดกาไรปี 65 เฉลี่ย 1,132 ลบ. +28%YoY ราคาหุ้น -15% เมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่ผ่านมา และซื้อขายที่ระดับ P/E 33x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 41x แนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) กลุ่มรับเหมาฯ รฟม.เปิดซองชิงก่อสร้างรถไฟฟ้าม่วงใต้ 6 สัญญา รับเหมาได้ทุกรายทั้ง CK-STEC-ITD-NWR-UNIQ พบ CK-STEC จับมือรับงานสูงสุด 35,313 ล้านบาท ตามด้วย ITD รับเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่า 16,731.88 ล้านบาท และร่วม NWR อีก 15,109 ล้านบาท ตามด้วย UNIQ รับงาน 14,982 ล้านบาท โบรกชูแนวทางจับมือช่วยเพิ่มมาร์จิ้น (ที่มา ทันหุ้น)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ CK เนื่องจากเป็นการเติม Backlog จากระดับต่ำให้กลับสู่ภาวะปกติที่ระดับ 7-8 หมื่นลบ. นอกจากนี้งานที่ CK ได้เป็นอุโมงค์ใต้ดินซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย เราจึงเลือก CK เป็น Top Pick

(+) ICN (Bloomberg Consensus - บาท) คว้างานใหม่ 131 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกแตะ 1.5 พันล้านบาท ปักเป้าสิ้นปีตุนงานทะลุ 2 พันล้านบาท บอสใหญ่ "มนชัย มณีไพโรจน์" เร่งปั๊มมาร์จิ้นฟู พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีเสือพุ่งขึ้น 20% ใส่เกียร์รุกธุรกิจดิจิทัล เตรียมจรดปากกาเซ็นงานใหม่ 500 ล้านบาท ในไตรมาสแรก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BE8 (Bloomberg Consensus 40.40 บาท) ประเดิมต้นปีคว้างานจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย มูลค่า 440 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าติดตั้งโซลูชั่นซอฟต์แวร์การบริหารจัดการโลจิสติกส์ท่าเรือแบบครบวงจรระดับโลกในไตรมาสแรก ชูฟีเจอร์หนุนบริหารจัดการข้อมูล เชื่อมโยงอัตโนมัติแบบไร้รอยต่อ สู่ e-Logistics Platform มาตรฐานสากล พร้อมวางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าหน่วยงานภาครัฐทรานส์ฟอร์เมชั่น สร้างการเติบโตแข็งแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RT (Bloomberg Consensus 2.50 บาท) กางแผนปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 50% แตะ 4,000 ล้านบาท ลุยประมูลงานภาครัฐมาร์จิ้นสูง และงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ คาดทยอยประกาศและเซ็นสัญญาในไตรมาส 1/65 ลุ้นปีนี้แบ็กล็อกนิวไฮ 8,500 ล้านบาท ทุ่มงบลงทุน 570 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเฉพาะทางรับงานโครงการใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)