OR นิวโลว์ | ออฟเรคคอร์ด

OR นิวโลว์ | ออฟเรคคอร์ด

จากหุ้นมหาชน OR ราคาหุ้นสาละวันขาลงจนทำนิวโลว์ ไปแล้ว

๐๐๐ OR นิวโลว์

หุ้นขวัญใจมหาชน OR   มาถึงจุดที่ราคาหุ้นยังไม่ใช่ขาขึ้น และทำ นิวไลว์ ไปเรียบร้อย ด้วยการลงมาปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ราคา 24.60 บาท !!!

แม้ราคายังสูงกว่าไอพีโอ ที่ 18 บาท แต่ภาพหุ้นที่ประชาชนแย่งกันจองแย่งกันซื้อ และยังดันราคาขึ้นไปแรง 40 กว่าบาท มาสู่ภาพธุรกิจเจอ ผลกระทบ จากธุรกิจน้ำมันที่ยังรอ ข่าวใหญ่ มาหนุน

ราคาหุ้นขาลง ด้วยอาการหุ้นค่อยๆ ริน ค่อยๆ ไหล ลงมาต่อเนื่อง  มาเพราะธีม “หุ้นเปิดประเทศ” ไร้มนต์ขลังกระตุ้นอย่างไร หรือ ปลดคลายมาตรการ “ยังต้องรอ” ทัวร์จีนเข้ามา ถึงจะทำให้ท่องเที่ยวฟื้นจริงจัง

มองไปถึงไตรมาส 1 ปี 2565 ยังเจอสถานการณ์ “โอมิครอน” กำไรยังไม่เห็นการเติบโต .. ไม่แปลกที่จะเริ่มมีกระแสปรับ ประมาณการราคาหุ้น ออกมาให้ได้ยินบ้างแล้ว 

๐๐๐

หุ้นไทยยังสดใสบวกแรงกว่า 10 จุด ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศดูมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังรัฐคิกออฟมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ทั้ง “คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 4 และเปิดลงทะเบียน Test&Go รับนักท่องเที่ยว

โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,661.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.94 จุด หรือ 0.78% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,663.76 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,658.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,439.75 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 1,055.18 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 550.71 ล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 284.10 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขาย 1,321.77 ล้านบาท

๐๐๐

“กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง” พาเหรดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง รับข่าวเปิดซองประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 6 สัญญา ปรากฏว่า “บิ๊กรับเหมา” รับทรัพย์ถ้วนหน้า นำโดยบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) คว้างานมาได้มากที่สุด 3 สัญญา ราคาขึ้นมารับข่าวดี ปิด 2.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.78%

ส่วน บมจ.ช.การช่าง (CK) ที่จับมือกับบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ได้มา 2 สัญญา ราคาหุ้น CK วิ่งมาปิด 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 7.11% และ STEC ปิด 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.78% ปิดท้ายบมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) คว้างานมา 1 สัญญา ราคาปิดที่ 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.63%

๐๐๐

ส่วน “กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” คึกคักตลอดทั้งวัน รับจิตวิทยาเชิงบวกหลังบรรดาหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นแนสแด็กของสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งแอปเปิล, อเมซอน, เทสลา, เมตา ฯลฯ

รอบนี้นำทีมโดยบมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) บวก 6.05% ปิดที่ 368 บาท ตาม ด้วยบมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) บวก 3.14% ปิด 74 บาท ส่วนบมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) บวก 5.04% ปิด 73 บาท

๐๐๐

หุ้นบมจ.บริทาเนีย (BRI) ของกลุ่มออริจิ้น ฟอร์มกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ราคาพุ่งติดจรวด 11.76% มาปิดที่ 13.30 บาท เชื่อว่าปีนี้ผลประกอบการยังไปได้สวย ดีมานด์ตลาดแนวราบยังขยายตัวต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แถมยังได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐที่ปลดล็อก LTV และยืดเวลาการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองไปถึงสิ้นปี

๐๐๐

ปิดท้ายกับบมจ.โนวา ออร์แกนิค (NV) มาปิดที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 6.40% แต่ราคายังต่ำจองจากราคาไอพีโอที่ 6.90 บาท แม้จะอยู่ในกล่มธุรกิจอาหารเสริมที่ดูแล้วมีอนาคต แต่งานนี้คงต้องรอพิสูจน์ฝีมืออีกสักพัก ถ้าผลงานออกมาเข้าตาน่าจะช่วยดันราคาหุ้นได้มากกว่านี้

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์