ตรุษจีนกร่อยเงินสะพัดเหลือแค่ 3.9 หมื่นล้าน

ตรุษจีนกร่อยเงินสะพัดเหลือแค่ 3.9 หมื่นล้าน

“หอการค้าไทย เผยการจับจ่ายใช้สอยช่วงตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคัก คาดการณ์เงินสะพัดช่วงเทศกาลตรุษจีนเหลือ 3.9 หมื่นล้านบาท ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี “

อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ธนวรรธน์ พลวิชัย ระบุ คาดการณ์เงินสะพัดช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 อยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท ติดลบ 11.82% เทียบกับปีก่อน ที่มีมูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท มูลค่าการใช้จ่ายต่ำสุดในรอบ 11 ปี ขยายตัวติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และมีมูลค่าต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ถือว่าการจับจ่ายใช้สอยช่วงตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคัก

ขณะที่ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 สำรวจวันที่ 17-24 มกราคมจากกลุ่มตัวอย่าง 1,250 ราย พบว่า 25.5% ระบุบรรยากาศตรุษจีนปีนี้คึกคักน้อยลง 66.4 คึกคักเท่าเดิมเพียง 0.3% มากกว่าปีก่อน ขณะที่ 44.7% การใช้จ่ายลดลง 18.8% ใช้จ่ายเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลดลง ลดค่าใช้จ่าย เป็นหนี้เพิ่มขึ้น และวิตกโควิดระบาดโควิด 36.5% ระบุว่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น ขณะที่ 77.1% ระบุไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดตรุษจีน

ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นกังวลในช่วงเทศกาลตรุษจีนจากเศรษฐกิจไม่ดี ราคาสินค้าแพง ทั้งราคาหมู ไก่ ใข่น้ำมันปาล์ม ราคาพลังงาน ที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนจึงลดพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยลง 
ขณะที่สถานการณ์โอมิครอนประชาชนมีความกังวลลดลงจากปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์ของโรคไม่รุนแรง จึงไม่บั่นทอนการใช้จ่าย แต่มาจากการที่รายได้ลดลง

ทั้งนี้ มองว่าหากรัฐบาลสามารถคลี่คลายสถานการณ์โอมิครอนได้ภายในไตรมาสที่ 1 แก้ไขสถานการณ์ราคาสินค้าแพงได้ เริ่มผ่อนคลายให้กลับมาใช้มาตรการ Test&Go สำหรับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 1 กพ.นี้ และเริ่มทยอยใช้คนละครึ่ง หากสถานการณ์โอมิครอนคลี่คลาย การกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ผ่านมาตรการรัฐต่างๆ เศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นโดยหอการค้าไทยยังไม่ปรับตัวเลขประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้ที่ประเมินว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 3.5%