NETBAY รอปัจจัยกระตุ้นใหม่ (26 ม.ค. 2565)

NETBAY รอปัจจัยกระตุ้นใหม่ (26 ม.ค. 2565)

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ NETBAY ใน 4Q64F จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท (-11% YoY, +5% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2564F อยู่ที่ 160 ล้านบาท (+2% YoY) โดยกำไรที่ลดลง YoY จะมาจากการปรับฐานอัตราภาษีหลังสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ BOI

ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 105 ล้านบาท (+3% YoY, +3% QoQ) จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจเนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ลงทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท (+3% YoY) แต่ยังต่ำกว่าเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายของบริษัทที่ 10-15% ต่อปี เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 80.9% (-0.5ppts YoY, +0.3ppts QoQ) สะท้อนถึงรายได้ที่ฟื้นตัวขึ้น และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 อยู่ที่ 80.3% (+1.4ppts YoY) เราคาดว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้บริษัทเกิดการประหยัดต่อขนาด และทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 34.6% ใน 4Q64 โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 38.1%

 

มีการปรับฐานกำไรในปี 2565 และรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ในปี 2566

เราคาดว่าโมเมนตั้มของรายได้จะเร่งตัวขึ้นในปี 2565 จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ แต่การปรับฐานอัตราภาษีจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2565 โต 16% YoY ต่ำกว่ายอดขายที่คาดว่าจะโต 17% YoYผู้บริหารมีแผนจะขยายธุรกิจด้าน digital health and wellness platform, IoT, และ data analytic เพื่อเกาะกระแสของยุค digital transformation ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2566 ทั้งนี้ เนื่องจากยังขาดปัจจัยกระตุ้นและมีการปรับฐานกำไรในปี 2565 เราจึง de-rate PER จากเดิม 40.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต) เหลือ 28.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของหุ้นกลุ่มนี้ในตลาดโลก -1.0 S.D.) คิดเป็น PEG ที่ 1.7x เราเชื่อว่าหุ้น NETBAYส มควรจะมี premium เนื่องจากอัตรากำไรโดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม (Figure 3) โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ ~80%, อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ ~40% และ ROE อยู่ในระดับสูงที่ 34% (เมื่อเทียบกับของ HUMAN และ IIG ที่ 13%)

 

 

 

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 จากเดิม 35.00 บาท เหลือ 26.00 บาท อิงจาก PER ที่ 28.0x ทั้งนี้เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นในปี 2565 และเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกไม่มากแล้ว เราจึงปรับลดคำแนะนำ NETBAY จาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”

 

Risks

การแข่งขัน, การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล, การพึ่งพาบุคลากร, การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี, ความเสถียรของระบบการให้บริการ, เศรษฐกิจโลกชะลอตัว