PTTGC - ยังเหนื่อย (วันที่ 19 มกราคม 2565)

PTTGC - ยังเหนื่อย (วันที่ 19 มกราคม 2565)

เราคาดกำไรสุทธิ 4Q ที่ 5.3พันลบ. (1.2บาท EPS), -24% qoq และ -17% yoy กดดันจากธุรกิจปิโตรเคมีอ่อนแอส่งผลมากกว่าการฟื้นตัวของธุรกิจโรงกลั่น

เราคาดกำลังการผลิต PE ใหม่เข้าสู่ตลาดมากที่สุดในปีนี้ นอกจากนี้ PTTGC ยังมีกำหนดการซ่อมบำรุงใหญ่ตลอดปี 2022 คงคำแนะนำ ถือ 65บาทต่อหุ้น

 

คาดกำไร 4Q ที่ 5.5พันลบ., (1.2บาท EPS), -24% qoq และ -17% yoy

คาดอัตราการกลั่นเพิ่มเป็น 100% จาก 77% ใน 3Q ค่าการกลั่นตลาดเพิ่มเป็น US$6.2 จาก US$3.2 ใน 3Q จากส่วนต่างเบนซินเพิ่มขึ้น (+US$3.9 qoq) และดีเซล (+US$6.0 qoq) PTTGC ไม่ผลิตน้ำมันอากาศยาน ส่วนเพิ่มน้ำมันดิบทรงตัว qoq ที่ US$3.5 แต่ PTTGC ไม่ใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง คาดโอเลฟินอ่อนแอ qoq จากต้นทุนนาฟตาและ LPG ที่เพิ่มขึ้นและมีผลมากกว่าราคา PE ที่เพิ่มขึ้น PTTGC ใช้วัตถุดิบก๊าซ:ราฟตา ในสัดส่วน 75:25 ใน 4Q คงที่จาก 3Q อัตราการผลิตโรงแยกลดลงเป็น 85% จาก 91% ใน 3Q เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้จากวัตถุดิบนาฟตาลดลง คาดอัตราการการผลิตโรงงาน PE ที่ 104% ทรงตัว qoq คาดธุรกิจอะโรเมติกอ่อนแอลง qoq พร้อมส่วนต่าง PX และ BZ (-US$82 qoq เป็น US$222/t และ -US$117 เป็น US$260/t) อัตราการกลั่นอยู่ในระดับสูงที่ 100% จากส่วนต่าง BZ ที่ดี คาด PTTGC มีกำไรสต๊อก 1.2พันลบ. จาก 1.1พันลบ.ใน 3Q, กำไร hedge 1.0พันลบ. จากขาดทุน 1.7พันลบ. ใน 3Q และขาดทุนค่าเงิน 1.0พันลบ. จากขาดทุน 1.1พันลบ. ใน 3Q

 

 

 

กำลังการผลิตใหม่ PE จะเข้าสู่ตลาดมากที่สุดใน 2022

แม้ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากทำให้ราคานาฟตาสูงตาม แต่ราคาผลิตภัณฑ์ PE อาจลดลงในม.ค. จาก 4Q21 จากกำลังการผลิต PE ใหม่กว่า +10m เข้าสู่ตลาดใน 2022 (บางส่วนล่าช้าจาก 2021) และ +6m ตันใน 2023 (หน้า 2) กำลังการผลิตใหม่จะกดดันราคา PE และสะท้อนว่าอัตราการผลิตจะอยู่ในระดับต่ำในปี 2022-23 ความได้เปรียบของ PTTGC ในด้านวัตถุดิบก๊าซจะลดลงเนื่องจากสัดส่วนการใช้ก๊าซลดลงเป็น75% (จาก 85% ใน 2020) ซึ่งรวมถึง LPG ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะทำให้ราคา LPG อยู่ในระดับสูง

 

คงคำแนะนำ ถือ เป้าหมาย 65บาท; เข้าซื้อ Allnex (1.33แสนลบ.) แล้วเสร็จ

PTTGC กำลังทำ tender offer หุ้น 16.24% ของ VNT (ที่ 38บาท) ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2022 PTTGC จะมีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในปีนี้ (39 วันของโรงแยก 1m ตันใน 2Q22 และโรงกลั่น 50 วัน, 1/3 ของกำลังการผลิต HDPE 38 วันและ 56 วันสำหรับโรง PO ใน 4Q22) เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 65บาทอ้างอิง 4.0x FY22F EV/EBITDA และ 9.4x PE เทียบเท่า 0.9x PBV (ROE 9.4%)